คำว่า “เด็กซน” ใช้เพื่ออธิบายเด็กที่มีความสามารถในการเรียนรู้และตั้งคำถามได้ดีกว่าเด็กปกติในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งคำว่า “เด็กซน” ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในวงการการศึกษาและสังคม
อย่างไรก็ตาม การสรุปว่าเด็กซนเป็นเด็กฉลาดหรือไม่นั้นไม่สามารถทำได้เพราะคำว่า “ฉลาด” มีความหมายที่แตกต่างกันไปในแต่ละสังคม และการเรียนรู้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความฉลาดเท่านั้น มีส่วนประกอบหลายอย่าง เช่น สภาพแวดล้อม การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดี ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถส่งผลให้เด็กมีความสามารถในการเรียนรู้ได้มากขึ้น
ดังนั้นการพูดว่า “เด็กซน” หมายถึงเด็กที่มีความสามารถในการเรียนรู้และมีความตั้งคำถามมากกว่าเด็กปกติ เป็นเพียงคำอธิบายที่จำกัดเท่านั้น และควรดูว่าสภาพแวดล้อมและสิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้เป็นอย่างไรในการประเมินความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กแต่ละคน
นอกจากนั้น การพูดว่า “เด็กซน” อาจสร้างความเครียดและความกดดันกับเด็กที่ถูกพูดถึงว่าเป็นเด็กซนได้ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการเรียนรู้และพัฒนาทางสังคมของเด็กได้ ดังนั้น ไม่ควรใช้คำว่า “เด็กซน” เป็นการกำหนดค่าความสามารถของเด็ก
การส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทางสังคมของเด็กนั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยพ่อแม่และผู้ปกครองสามารถช่วยให้เด็กมีความสามารถในการเรียนรู้ได้ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างสุขภาพจิตใจให้กับเด็ก ด้วยการเล่นเกมที่เป็นประโยชน์ อ่านหนังสือ ดูการ์ตูนที่สอนความคิดสร้างสรรค์ และให้เวลาเล่นและพักผ่อนอย่างเพียงพอ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมพัฒนาทักษะและความสามารถของเด็กได้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ การให้เด็กมีโอกาสเรียนรู้จากการเข้าถึงเทคโนโลยีและสื่อดิจิทัลสามารถช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของเด็กได้อีกด้วย ในปัจจุบันมีแหล่งข้อมูลออนไลน์มากมายที่สามารถให้เด็กเรียนรู้และค้นคว้าข้อมูลได้ตลอดเวลา นอกจากนั้น เทคโนโลยีสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนได้ด้วย เช่น การใช้แอปพลิเคชันเรียนรู้ การใช้เกมการเรียนรู้ และการใช้ระบบสื่อสารออนไลน์ในการสอน เพื่อช่วยเพิ่มเติมประสิทธิภาพการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของเด็ก
สุดท้าย สำหรับคำว่า “เด็กซน” นั้นจะต้องพิจารณาจากหลายด้านเพื่อให้เห็นภาพที่แท้จริงว่าเด็กแต่ละคนมีความสามารถทางการเรียนรู้ที่แตกต่างกันไป และการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของเด็กเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีและมีประสิทธิภาพในเด็ก
Reference
- “The relationship between intelligence and creativity: New support for the threshold hypothesis by means of empirical breakpoint detection” by Andreas Fink et al., published in 2019. URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6625173/
- “Effects of physical activity on children’s executive function: Contributions of experimental research on aerobic exercise” by Matthew B. Pontifex et al., published in 2019. URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6714266/
- “Digital screen time and pediatric sleep: Evidence from a statewide school-based survey” by Monique K. LeBourgeois et al., published in 2017. URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5684667/
- “Parenting and early development of children with ADHD: An examination of the literature” by Shayna K. Solomon et al., published in 2016. URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5159299/
- “Longitudinal associations between TV viewing and BMI among preschoolers” by Meghan Longacre et al., published in 2016. URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4887732/