5 เทคนิคแก้ท้องหน้าลายคุณแม่หลังคลอด 

5 เทคนิคแก้ท้องหน้าลายคุณแม่หลังคลอด

หลังคลอดท้องลายเป็นสิ่งที่มักเกิดขึ้นกับผู้หญิง โดยมีสาเหตุมาจากการยืดหยุ่นของผิวหนังในขณะที่คลอด หรืออาจเกิดจากการผ่าตัด cesarean section ด้วย การแก้ไขท้องลายนั้นสามารถทำได้โดยใช้วิธีการต่อไปนี้

  1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารสมบูรณ์เพียงพอและครบถ้วน เช่น ผัก เนื้อสัตว์ และผลไม้ รวมถึงการดื่มน้ำเพียงพอ และการทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับสุขภาพ เช่น การออกกำลังกายและการยืดเหยียดกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่าง เป็นต้น
  2. การนวดและใช้ครีมที่ช่วยลดการยืดหยุ่นของผิวหนังในพื้นที่ท้องลาย โดยใช้วิธีการนวดเบา ๆ และไม่ใช้แรงมากเกินไป อาจจะใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามิน อี และวิตามินซี เพื่อช่วยลดการเกิดแผลเป็น และช่วยฟื้นฟูผิวหนังได้ดีขึ้น
  3. ใช้เทคนิคการทำผิวหนังเพื่อลดการยืดหยุ่นและเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวหนังในพื้นที่ท้องลาย เช่น เลเซอร์หรือความเย็น
  4. ใช้ผ้าพันท้องโดยผ้าพันที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อท้องส่วนล่างสามารถซ่อมแซมเองได้ โดยใช้ผ้าพันที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ
  5. ฝึกกล้ามเนื้อท้องล่าง โดยใช้เทคนิคที่ถูกต้อง เช่น การกดกล้ามเนื้อท้องล่างแบบที่ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อท้องล่างและช่วยลดความยืดหยุ่นได้

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีท้องลายอาจไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงได้เท่าที่คาดไว้ หรืออาจจะมีอาการท้องโตมากขึ้น ในกรณีนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้คำแนะนำและการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และคำแนะนำเพิ่มเติมที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาท้องลายให้เหมาะสม

Reference

  1. “Prevalence of Diastasis Recti Abdominis During the Childbearing Year: A Systematic Review and Meta-analysis” (2019) – https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/30759756/
  2. “Diastasis Rectus Abdominis and Lumbo-Pelvic Pain and Dysfunction- Are They Related?” (2018) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6227208/
  3. “Postpartum Exercises for Diastasis Recti: A Systematic Review” (2018) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6060379/
  4. “Prevalence and Risk Factors of Diastasis Recti Abdominis from Late Pregnancy to 6 Months Postpartum, and Relationship with Lumbo-Pelvic Pain” (2017) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5591029/
  5. “The Role of Physical Therapy in the Management of Women with Diastasis Recti Abdominis” (2016) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4966463/