ทารกควรกินนมแม่วันละกี่ออนซ์

ทารกควรกินนมแม่วันละกี่ออนซ์

การให้นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เนื่องจากน้ำนมแม่มีสารอาหารที่สำคัญสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารก นอกจากนี้ยังมีสารต่างๆที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของทารกและป้องกันการติดเชื้อโรคด้วย ดังนั้น การให้นมแม่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเลี้ยงลูกน้อย แต่ว่าการกินนมแม่วันละกี่ออนซ์ถือเป็นคำถามที่ค่อนข้างยากที่จะตอบได้แน่ชัดเนื่องจากปริมาณน้ำนมแม่ที่ทารกต้องการอาจแตกต่างกันไปตามอายุ น้ำหนัก และสุขภาพของทารก ดังนั้นการกินนมแม่วันละกี่ออนซ์นั้นควรจะเป็นเรื่องที่ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านดูแลแม่และทารกเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม มีบางข้อมูลที่ช่วยให้เรารู้ว่าปริมาณนมแม่ที่ต้องการต่อวันของทารกคือเท่าไหร่ ดังนี้

  • ตามคำแนะนำขององค์กรอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ทารกได้รับนมแม่เป็นหลักจนถึงอายุ 6 เดือน ซึ่งการให้นมแม่ในระหว่างนี้ไม่จำเป็นต้องเสริมด้วยอาหารเสริมอื่น และหลังจากนั้นให้เพิ่มอาหารเสริมเข้าไปเรื่อยๆ
  • ตามวิจัยที่ไดสำรวจปี พ.ศ. 2560 แล้วพบว่าปริมาณนมแม่ที่ทารกต้องการต่อวันคือ 25-35 ออนซ์ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามอายุของทารก แต่ในช่วง 0-6 เดือนปริมาณน้ำนมแม่ที่ทารกต้องการเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เนื่องจากน้ำนมแม่มีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงและเป็นอาหารที่เหมาะสมสำหรับทารก การเลี้ยงนมแม่ให้ถูกต้องและเพียงพอจะช่วยให้ทารกได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการอย่างเต็มที่


นอกจากปริมาณน้ำนมแม่ที่ต้องการต่อวันแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อปริมาณน้ำนมแม่ที่ทารกได้รับ เช่น การให้นมแม่บ่อยขึ้น การออกกำลังกาย การรักษาสุขภาพเพียงพอ การกินอาหารที่มีสารอาหารสูง และการลดความเครียด นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือต่างๆที่ช่วยให้นมแม่มีปริมาณเพียงพอ และช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำนมแม่ เช่น เครื่องปั๊มนมหรือเครื่องดูดนม นิ้วมือ และการใช้สัญญาณเพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนมแม่


ดังนั้นการเลี้ยงนมแม่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการดูแลและเจริญเติบโตของทารก แต่การกินนมแม่วันละกี่ออนซ์จะต้องปรึกษาและตรวจสอบอย่างถูกต้องกับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านดูแลแม่และทารก นอกจากนี้การส่งเสริมแม่ให้มีสุขภาพดี เช่น การดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การรับประทานอาหารที่เหมาะสมและมีสารอาหารสูง การพักผ่อนอย่างเพียงพอ และการลดความเครียด จะช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำนมแม่และส่งผลให้ปริมาณนมแม่ที่ทารกได้รับเพียงพอและเหมาะสมกับอายุและน้ำหนักของทารก


อย่างไรก็ตาม สำหรับทารกที่ต้องการน้ำนมมากกว่าปกติ เช่น ทารกเกิดก่อนกำหนดหรือทารกที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ หรือพิการแต่กำเนิด อาจจะต้องให้นมแม่ในปริมาณที่มากกว่าปกติและอาจต้องใช้เครื่องมือต่างๆเพิ่มเติม เช่น เครื่องดูดนมหรือเครื่องปั๊มนม เพื่อให้ทารกได้รับอาหารเพียงพอและเหมาะสมกับความต้องการของตน


สุดท้าย การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเรื่องที่ธรรมชาติและมีประโยชน์สูงสุดสำหรับทั้งแม่และทารก ดังนั้นคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านดูแลแม่และทารกเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

Reference

  1. “Breastfeeding and the Risk of Sudden Infant Death Syndrome” (2017) – https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa1604331
  2. “Breastfeeding and the Risk of Childhood Leukemia: A Meta-analysis” (2015) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4710293/
  3. “The Association of Breastfeeding and Asthma Incidence in Children: A Systematic Review” (2020) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7468208/
  4. “Breastfeeding and Maternal Hypertension” (2018) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6213508/
  5. “Breastfeeding and the Risk of Type 2 Diabetes: A Systematic Review and Dose-Response Meta-analysis of Cohort Studies” (2017) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5652012/