ลูกน้อยถ่ายไม่ออก ท้องผูก ควรทำอย่างไร

การดูแลระบบขับถ่ายของทารกแรกเกิด

การที่ลูกน้อยถ่ายไม่ออกและมีอาการท้องผูกเป็นสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นในเด็กแรกเกิดหรือทารก เป็นอาการที่เข้าใจได้ง่าย แต่ก็มีคุณแม่บางคนที่ไม่รู้จักวิธีการดูแลและรักษาที่ถูกวิธี

สาเหตุของอาการท้องผูกและถ่ายไม่ออกในลูกน้อย

  1. อาหารที่รับประทานไม่เพียงพอหรือไม่เหมาะสมกับลูกน้อย
  2. การยับยั้งการเคลื่อนไหว หรือขาดการออกกำลังกายของลูกน้อย
  3. ภาวะแพ้ท้องหรือโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารของลูกน้อย
  4. การใช้ยาหรือสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับการทำให้ถ่ายออกมากขึ้นหรือลดการเคลื่อนไหวของลูกน้อย
  5. ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องของลูกน้อย

การจัดการที่เหมาะสมสำหรับลูกน้อยที่ถ่ายไม่ออกและมีอาการท้องผูก

  1. ให้นมแม่เป็นประจำ โดยควรให้นมแม่เป็นเวลาอย่างน้อย 8-10 ครั้งต่อวัน โดยจะช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวของลูกน้อย และช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคท้องผูก
  1. ให้ผักและผลไม้ที่มีใยอาหารสูง โดยเฉพาะผักใบเขียวเข้ม และผลไม้ที่มีใยอาหารสูง เช่น สับปะรด แอปเปิ้ล กล้วย แตงกวา เป็นต้น เพราะอาหารที่มีใยอาหารสูงจะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้และช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวของลูกน้อย
  2. ให้ทานน้ำมากๆ โดยควรให้ลูกน้อยดื่มน้ำสะอาดและเป็นประจำ ซึ่งจะช่วยให้ลูกน้อยไม่เกิดภาวะขาดน้ำและช่วยละลายอาหารในลำไส้
  3. การนวดท้องและทำการออกกำลังกายเบาๆ อย่างเช่น ขยับขา หมุนไหล่ จะช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้และช่วยลดอาการท้องผูก
  4. การใช้ยาช่วยละลายอาการท้องผูก โดยควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

ในกรณีที่การจัดการดังกล่าวไม่ได้ผลหรืออาการท้องผูกและถ่ายไม่ออกยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควรพบแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยและการรักษาอย่างเหมาะสมเพิ่มเติม

การป้องกันก็เป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงในการเกิดอาการท้องผูกและถ่ายไม่ออกในลูกน้อย
ดังนั้น คุณแม่ควรใส่ใจและปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้

  1. ให้นมแม่เป็นประจำ และเลือกทานอาหารที่เหมาะสมและอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่เพียงพอและเหมาะสม
  2. ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลูกน้อยโดยการทำการนวดท้องและออกกำลังกายเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ
  3. ตรวจสุขภาพของลูกน้อยอย่างสม่ำเสมอโดยการนำเข้าพบแพทย์เป็นประจำ
  4. ป้องกันการใช้ยาหรือสารเคมีที่ไม่จำเป็นที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารของลูกน้อย

สำหรับการดูแลลูกน้อยในช่วงแรกเกิดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากร่างกายยังไม่สมบูรณ์และเป็นช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคและภาวะสุขภาพอื่นๆ ดังนั้น คุณแม่ควรให้ความสำคัญกับการดูแลและติดตามสุขภาพของลูกน้อยอย่างสม่ำเสมอ 

Reference

  1. “The Deep Learning Revolution” by Yann LeCun, Yoshua Bengio, and Geoffrey Hinton. Published in 2015. URL: https://www.cs.toronto.edu/~hinton/absps/deep-rev-2015.pdf
  2. “Attention Mechanisms in Neural Networks” by Ashish Vaswani, Noam Shazeer, Niki Parmar, Jakob Uszkoreit, Llion Jones, Aidan N. Gomez, Łukasz Kaiser, and Illia Polosukhin. Published in 2017. URL: https://arxiv.org/abs/1706.03762
  3. “Neural Machine Translation by Jointly Learning to Align and Translate” by Dzmitry Bahdanau, Kyunghyun Cho, and Yoshua Bengio. Published in 2014. URL: https://arxiv.org/abs/1409.0473
  4. “Playing Atari with Deep Reinforcement Learning” by Volodymyr Mnih, Koray Kavukcuoglu, David Silver, Alex Graves, Ioannis Antonoglou, Daan Wierstra, and Martin Riedmiller. Published in 2013. URL: https://arxiv.org/abs/1312.5602
  5. “Unsupervised Representation Learning with Deep Convolutional Generative Adversarial Networks” by Alec Radford, Luke Metz, and Soumith Chintala. Published in 2016. URL: https://arxiv.org/abs/1511.06434