โยเกิร์ตเป็นอาหารที่น่าสนใจและที่ถูกนำมาใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับเด็กทารกและเด็กเล็กเพราะมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตและสุขภาพของลูกน้อย และโยเกิร์ตยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพของร่างกายโดยรวมด้วย
- สารอาหารที่สำคัญ
โยเกิร์ตเป็นแหล่งของโปรตีนและแคลเซียมที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาสมองของลูกน้อย โปรตีนช่วยสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย ในขณะเดียวกันแคลเซียมช่วยสร้างเสริมกระดูกและฟันของลูกน้อย
- ช่วยปรับสมดุลเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้
โยเกิร์ตประกอบไปด้วยแบคทีเรียดี ๆ ที่ช่วยปรับสมดุลเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้ของลูกน้อย โดยการช่วยบำรุงและส่งเสริมการทำงานของเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ นอกจากนี้โยเกิร์ตยังมีความสามารถในการลดอาการท้องผูกได้
- ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
โยเกิร์ตยังเป็นแหล่งของวิตามินซีที่ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของลูกน้อย วิตามินซีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ลูกน้อยมีความสามารถในการต่อต้านเชื้อโรคและความเจ็บป่วยได้ดีขึ้น
- ลดอาการแพ้ง่าย
การให้โยเกิร์ตเป็นอาหารเสริมให้กับลูกน้อยอาจช่วยลดอาการแพ้ง่ายและการปวดท้องของลูกน้อยได้ โยเกิร์ตทำให้ร่างกายของลูกน้อยมีการสร้างภูมิคุ้มกันในตัวเองและช่วยเสริมสร้างส่วนประสมในร่างกายที่จำเป็นต่อการต่อต้านการติดเชื้อและการแพ้ง่าย
- ช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาสมอง
โยเกิร์ตเป็นแหล่งของกรดอะมิโนที่ช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาสมองของลูกน้อย กรดอะมิโนช่วยส่งเสริมการสร้างเซลล์สมองและช่วยในการสร้างสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้และการจดจำของลูกน้อย
- ช่วยสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ดี
โยเกิร์ตเป็นอาหารที่น่าสนใจและมีรสชาติที่อร่อย ดังนั้นการให้โยเกิร์ตให้กับลูกน้อยอาจช่วยสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ดีและสนุกสนาน
- ช่วยลดน้ำหนักเกิน
การให้โยเกิร์ตให้กับลูกน้อยอาจช่วยลดน้ำหนักเกินและควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม โยเกิร์ตมีปริมาณพลังงานที่ต่ำและไม่มีไขมันสูงสุด สามารถเป็นอาหารเสริมที่ดีสำหรับลูกน้อยที่ต้องการควบคุมน้ำหนักในการเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม
- ช่วยในการนอนหลับ
โยเกิร์ตเป็นแหล่งของไทโรฟานที่ช่วยให้ลูกน้อยหลับสนิทและผ่อนคลายได้ นอกจากนี้ไทโรฟานยังช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลของลูกน้อยด้วย
- ช่วยเสริมสร้างระบบประสาท
โยเกิร์ตประกอบด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญต่อการเสริมสร้างระบบประสาทของลูกน้อย นอกจากนี้ยังมีการวิจัยที่พบว่าโยเกิร์ตช่วยลดอาการซึมเศร้าและความวิตกกังวลในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
โยเกิร์ตมีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของลูกน้อย การบริโภคโยเกิร์ตที่มีแบคทีเรียดี ๆ จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของลูกน้อย
- ช่วยในการย่อยอาหาร
โยเกิร์ตเป็นอาหารที่มีประโยชน์ในการย่อยอาหารของลูกน้อย โยเกิร์ตมีปริมาณของแอมิลาสและเอนไซม์ที่ช่วยในการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกายของลูกน้อย
- ช่วยในการดูแลระบบทางเดินอาหาร
การบริโภคโยเกิร์ตเป็นสิ่งที่ช่วยในการดูแลระบบทางเดินอาหารของลูกน้อย โยเกิร์ตช่วยดูแลทางเดินอาหารและช่วยเป็นการส่งเสริมการดูแลสุขภาพของระบบย่อยอาหารของลูกน้อย
- ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน
โยเกิร์ตมีปริมาณแคลเซียมสูงที่สุด โครงสร้างของกระดูกและฟันของลูกน้อยต้องการแคลเซียมเพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างเหมาะสม การบริโภคโยเกิร์ตสามารถช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรงและเพิ่มความคงทนของกระดูกและฟันได้
- ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
การบริโภคโยเกิร์ตเป็นวิธีที่ดีในการลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน โยเกิร์ตมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำและมีไขมันน้อย การบริโภคโยเกิร์ตอย่างสม่ำเสมอในการเลี้ยงลูกน้อย
- ช่วยในการลดความเสี่ยงของโรคซึมเศร้า
โยเกิร์ตมีโปรตีนและไทโรฟานซึ่งช่วยส่งเสริมการผลิตเซโรโทนินซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคซึมเศร้าในเด็กได้
อย่างไรก็ตาม การบริโภคโยเกิร์ตต้องมีสมดุลและควรบริโภคให้เหมาะสมกับอายุและความต้องการของลูกน้อยเพื่อรักษาสุขภาพให้ดีที่สุด
Reference
- บทความ “Yogurt for Babies: When Can Babies Eat Yogurt?” จากเว็บไซต์ Healthline: https://www.healthline.com/health/parenting/yogurt-for-babies
- บทความ “Is Yogurt Good for Babies?” จากเว็บไซต์ Verywell Family: https://www.verywellfamily.com/is-yogurt-good-for-babies-4152522
- บทความ “When Can Babies Have Yogurt? How to Introduce It Safely” จากเว็บไซต์ The Bump: https://www.thebump.com/a/when-can-babies-have-yogurt