การตั้งครรภ์เป็นช่วงที่คุณแม่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอารมณ์อย่างมากๆ และสามารถพบเจอปัญหาต่างๆ ได้ดังนี้
- อาการแพ้ท้อง (Morning Sickness)
คืออาการคล้ายปวดท้องและคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าหรือตอนเย็น อาการนี้เป็นปกติและไม่ต้องกังวล แต่ถ้าอาการมีความรุนแรงและทำให้คุณแม่เกิดความไม่สบายหรือเจ็บปวดแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ - แพนิคอะตอกซิส (Panic Attacks)
คุณแม่ที่มีประวัติโรคแพนิคอะตอกซิสอาจมีโอกาสที่จะประสบอาการเหล่านี้ในช่วงตั้งครรภ์ อาการจะเกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล และอาจปวดหน้าอกหรือหายใจไม่ออกได้ หากมีอาการเหล่านี้หญิงควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษา - การแทงครรภ์ (Miscarriage)
เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในการตั้งครรภ์ ทำให้ทารกตายและถูกขับออกจากมดลูก อาจเกิดจากพันธุกรรม สภาพแวดล้อม หรือเหตุการณ์ต่างๆ อาการที่พบบ่อยคือเลือดออก ปวดท้อง และซึมเศร้า หากมีอาการเหล่านี้หญิงควรพบแพทย์ทันที - เป็นลมแดด (Heat exhaustion)
การอยู่ในอากาศร้อนและชื้นอาจทำให้การอยู่ในอากาศร้อนและชื้นอาจทำให้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์เกิดอาการเป็นลมแดดได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการหนาวสั่น หมดแรง หรือเหนื่อยล้า ในกรณีที่เกิดอาการเหล่านี้คุณแม่ควรพักผ่อนในที่ร่มรื่นและดื่มน้ำเปล่าเพียงพอ
- ปัญหาทางสุขภาพที่เกี่ยวกับน้ำหนัก
การเพิ่มน้ำหนักที่เกินปกติในช่วงตั้งครรภ์อาจเป็นปัญหาที่ทำให้คุณแม่เจ็บปวด หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด แต่ในทางกลับกันการไม่เพิ่มน้ำหนักในช่วงตั้งครรภ์ก็อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารก ดังนั้น คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการควบคุมน้ำหนักในช่วงตั้งครรภ์ - ภาวะโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
ภาวะโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงอาจเป็นปัญหาที่ทำให้หญิงสาวตั้งครรภ์เจ็บปวดและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน แต่หากควบคุมได้ดีและมีการดูแลอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงได้ - อาการปวดหลัง
หลังตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงร่างกายทำให้คุณแม่เจ็บปวดในหลายๆ ส่วนของร่างกาย เช่น สะโพก หลัง และข้อเท้า อาการเหล่านี้เป็นปกติในช่วงตั้งครรภ์แต่หากมีความรุนแรงและไม่สามารถทนได้คุณแม่ควรพบแพทย์
- ภาวะซีด
การตั้งครรภ์อาจทำให้หญิงสาวมีภาวะซีดเนื่องจากการเพิ่มเลือดในร่างกายทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานหนักขึ้น หากมีอาการเหล่านี้หญิงควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษา - ภาวะสมองเสื่อม
ภาวะสมองเสื่อมหรือลืมหลังอาจเกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนและการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย อาการเหล่านี้เป็นปกติและไม่ต้องกังวล แต่ถ้ามีอาการรุนแรงและมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตควรปรึกษาแพทย์
นอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ได้อีก เช่น ภาวะภูมิคุ้มกันลดลง อาการนอนไม่หลับ และการเกิดแผลเป็นคลายแพ้ผิวหนัง เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการตั้งครรภ์ คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เมื่อพบอาการผิดปกติหรือมีข้อสงสัยใดๆ
Reference
- Healthline. (2021). 23 Early Pregnancy Symptoms & Common Discomforts. Retrieved from https://www.healthline.com/health/pregnancy/early-symptoms-timeline
- What to Expect. (2022). Pregnancy Symptoms: 15 Early Signs That You May Be Pregnant. Retrieved from https://www.whattoexpect.com/getting-pregnant/signs-of-pregnancy/
- Mayo Clinic. (2022). Pregnancy Week by Week. Retrieved from https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/pregnancy-week-by-week/symptoms-20251841