คุณแม่ใหม่ควรรู้อาการแพ้และการอักเสบหลังคลอด

คุณแม่ใหม่ควรรู้อาการแพ้และการอักเสบหลังคลอด

อาการแพ้และการอักเสบหลังคลอดเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในหญิงหลังคลอด ซึ่งอาจเกิดจากการตั้งครรภ์ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น การผ่าตัดคลอด การใช้เครื่องมือช่วยคลอด หรือการติดเชื้อในช่วงคลอด ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการแพ้และการอักเสบได้

  1. การแพ้หลังคลอด

อาการแพ้หลังคลอดสามารถเกิดขึ้นได้ทันทีหลังคลอดหรือช้ากว่านั้นก็ได้ อาการแพ้หลังคลอดสามารถเป็นไปได้ที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีประวัติแพ้ในอดีตหรือไม่ อาการที่พบบ่อยคือ คันและผื่นขึ้นที่ผิวหนัง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว หรือแพ้ท้อง

การดูแลรักษาอาการแพ้หลังคลอด

เริ่มต้นด้วยการหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น อาหารและสิ่งที่มีกลิ่นหรือสารเคมีที่เป็นแรงกระตุ้น ร่วมกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีสารอาหารครบถ้วนเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

  1. การอักเสบหลังคลอด

การอักเสบหลังคลอดเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในหญิงที่คลอดบุตร ซึ่งอาจเกิดได้ในช่วงหลังคลอดจนถึงหลายสัปดาห์หรือเดือน อาการที่พบบ่อยมากคือ แผลบริเวณคลอด อาการปวดบริเวณคลอด อาการเจ็บเมื่อถูกสัมผัส หรืออาการมีกลิ่นเหม็นจากแผลหลังคลอด

การดูแลรักษาการอักเสบหลังคลอด

เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดและเปลี่ยนผ้าสะอาดบ่อยๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ การใช้ชุดคลุมคลอดที่สะอาดและเหมาะสม นอกจากนี้ยังสามารถใช้ยาและการวิเคราะห์แล็ปเพื่อจัดการกับอาการอักเสบหลังคลอดได้

  1. วิธีป้องกันการแพ้และการอักเสบหลังคลอด

การป้องกันการแพ้และการอักเสบหลังคลอดสามารถทำได้โดยการทำความเข้าใจถึงปัจจัยที่เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะดังกล่าว อาทิเช่น การรักษาสุขอนามัยในช่วงตั้งครรภ์ การตรวจร่างกายตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะได้สังเกตอาการแพ้และการอักเสบได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันการแพ้และการอักเสบได้โดยการดูแลสุขภาพและความสะอาดของร่างกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีสารอาหารครบถ้วน การดื่มน้ำและการพักผ่อนให้เพียงพอ จะทำให้มีสุขภาพจิตที่ดี การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันการแพ้และการอักเสบได้โดยการใช้ผ้าสะอาดทำความสะอาดร่างกาย อย่างไรก็ตาม หากมีอาการแพ้และการอักเสบหลังคลอดเกิดขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาอย่างทันเวลาและเหมาะสม

Reference

  1. “Postpartum inflammation and maternal and offspring long-term health: A systematic review,” published in the Journal of Reproductive Immunology in 2021. URL: https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0165037821000781
  2. “Postpartum inflammation and functional ovarian reserve in a Chinese population,” published in Reproductive Biology and Endocrinology in 2018. URL: https://rbej.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12958-018-0411-6
  3. “Postpartum allergies: Myth or reality?” published in the Journal of Obstetrics and Gynaecology Canada in 2015. URL: https://www.jogc.com/article/S1701-2163(15)30353-5/fulltext