เลือกสินค้าผิดมา 10 ปี ไม่รวย! เปิดใจขายJessie Mum แค่ 4 เดือน มีรายได้หลักแสนต่อเดือน

คุณเมย์-กัญญารัตน์ ธัญญเจริญ ตัวแทนจำหน่าย Jessie Mum

ทำธุรกิจยุคนี้ ยิ่งต้องปรับตัวให้เร็วเพื่อให้ทันสมัย พร้อมกลยุทธ์เด็ดๆ มาช่วยชนะใจลูกค้า แน่นอนว่าเทรนด์การค้าขายออนไลน์ที่กำลังมาแรง หลายหน้าร้านต้องปรับตัวมาขายออนไลน์เพื่อความอยู่รอด  แต่การจะทำให้ร้านค้าของเราแจ้งเกิดบนโลกออนไลน์ได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

มีทั้งคนที่ทำแล้วรุ่ง และคนที่ทำแล้วร่วง แต่ก็มีคนที่เปลี่ยนมาขายออนไลน์แล้วปังก็มีอีกเยอะ หนึ่งในนั้นก็คือ คุณเมย์-กัญญารัตน์ ธัญญเจริญ ตัวแทนจำหน่าย Jessie Mum ที่ขายสินค้ามาแล้วทุกรูปแบบ จนวันหนึ่งมาได้เจอกับสินค้าที่ตอบโจทย์ธุรกิจของตัวเองจริงๆ และสามารถพลิกชีวิตด้วยการขายสินค้าบนโลกออนไลน์แค่ 4 เดือน จนมีรายได้เดือนละ 200,000 บาท

เรียนรู้ ลองผิดลองถูก

การเป็นแม่ค้าออนไลน์เป็นหนึ่งในสิ่งที่เธออยากทำ อยากลองมานาน แม้ไม่เคยขายของ ไม่เคยเป็นแม่ค้ามาก่อน ประสบการณ์ก็ไม่มี  แต่เชื่อว่าทุกคนก็ต้องมีครั้งแรก “คุณเมย์” ได้เล่าให้ฟังว่า ช่วงสมัยที่ตัวเองเป็นวัยรุ่นก็อยากมีเงินใช้เยอะๆ อยากมีเงินไว้ซื้อนู่นนี่นั่นเต็มไปหมด แต่ก็ไม่อยากไปรบกวนที่บ้าน ทำให้เราต้องหางานเสริมหลังเลิกเรียน แต่ตอนนั้นออนไลน์ยังไม่บูมขนาดนี้ และในสมัยนั้นอาชีพที่กำลังมาแรงเลยก็คือธุรกิจขายตรงค่ะ

 “ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เมย์ขายของมาเกือบทุกอย่าง เริ่มเข้าวงการนักขายตั้งแต่อายุ 19 ปี ทำตั้งแต่ ขายตรง ขายอาหารเสริม คอลลาเจน ลดน้ำหนัก สบู่ ครีมทาหน้า เซรั่ม มาร์คผิว ผ่านมาหมด แต่ไม่ประสบความสำเร็จสักอย่างค่ะ ด้วยที่เราเป็นเด็ก ก็เริ่มต้นจากธุรกิจขายตรงก่อน คือวัยรุ่นอยากมีรายได้ ก็ต้องหาอะไรที่มันไม่ต้องสต๊อกของ แต่ข้อเสียเราต้องหาคนมาต่อ หาลูกข่าย ถ้าหาไม่ได้ก็ต้องขายเอง พอขายเองถ้าทำยอดไม่ได้ ก็ไม่ได้โบนัส ไม่ได้ PV อะไรแบบนี้  แต่พอมาช่วงเวลาหนึ่ง เราไม่ไหวแล้วที่จะต้องมาหาคนไปทุกๆ วัน ก็เลยยุติการทำดีกว่า ถามว่ามันดีนะ แต่ว่ามันเหนื่อยมาก เราจะไม่มีวันหยุดเลย หาคนมาต่ออย่างเดียว”

ขยับมาเป็นตัวแทนจำหน่าย

เมื่อชีวิตเริ่มไปต่อกับธุรกิจเครือข่ายไม่ได้ คราวนี้ “คุณเมย์” จึงเปลี่ยนมาเป็นตัวแทนจำหน่าย เพื่อหวังที่จะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น และไม่ต้องเหนื่อยมาก ไม่ต้องเครียดกับการต้องหาคนมาต่อเหมือนที่ทำผ่านๆ มา ซึ่งเธอได้เล่าต่อว่า

“พอมาเป็นตัวแทนก็เหนื่อยน้อยลงนะ แต่ก็ต้องแข่งกันด้วยยอดขาย ถ้าเรามียอดขายเพิ่มขึ้น เราก็จะได้เป็นดีลเลอร์ ถ้าเรามียอดขายน้อย เราก็เป็นลูกกระจ๊อกเขา การเป็นตัวแทนเขาก็มีการแบ่งยศกันค่ะ เริ่มต้นก็ Dealer ต่อมา Premium และ VIP แต่ว่าเริ่มต้นก็จะได้รับสินค้าไปจำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เยอะมาก กำไรก็จะกลางๆ 100 กว่าบาท 200 บาท ต่อ 1ชิ้น หลังจากนั้น พอเรามีรายได้เพิ่มขึ้นทำยอดถึงเราก็จะไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ตำแหน่งที่สูงขึ้นจะได้สิทธิ์รับตัวแทนต่อได้ เราก็จะต้องหาตัวแทน แต่ตัวแทนเนี่ย จะต้องมารับของจากเรา เราจะต้องสต๊อกของมากขึ้นทวีคูณ”

“สมมุติว่าจากเดิมเราต้องสต๊อกของ 100 ชิ้น กลายเป็นว่าจะต้องเผื่อตัวแทนด้วย เราจะต้องมีของให้กับตัวแทนตลอด  พอวันหนึ่งที่เราขายไม่ได้แล้ว เริ่มมีการตัดราคาเกิดขึ้น เราจะขายราคาเดิมก็ไม่ได้อีก เพราะว่าถ้าเราขาย 890 บาท หรือ 1,000 บาท ไม่มีคนซื้อ เขาก็ไปซื้อ 500 บาท หรือ 300 บาท อย่างนี้ค่ะ แล้วสินค้าก็มีตามร้านขายส่งต่างๆ ที่เขาเอาไปขายด้วย ถ้าเรายังอยู่ และยิ่งแบรนด์ดังเท่าไหร่ก็ต้องเจอการตัดราคา เจอแบบนี้ก็เริ่มสู้ไม่ไหวค่ะ”

จุดเปลี่ยนชีวิตเริ่มก้าวกระโดด

แบรนด์อาหารเสริมเพิ่มน้ำนมแม่ Jessie Mum มีความพร้อมในการดูแลตัวแทนจำหน่าย เพื่อสร้างความมั่นใจในรายได้ให้กับตัวแทนจำหน่าย และการมีบริการหลังการขายที่ดีแล้ว โดยแบรนด์ได้ทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนสื่อทางการตลาดต่างๆ เพื่อทำให้ลูกค้าได้รู้จักแบรนด์ และให้ตัวแทนจำหน่ายขายได้ง่ายขึ้น “คุณเมย์” ได้เล่าต่อว่า หลังจากที่ตัวเองได้ลองผิดลองถูกมานานกว่า 10 ปี จนได้มาเจอแบรนด์ Jessie Mum พอได้ศึกษาข้อมูลจนมั่นใจ และได้มาสมัครเป็นตัวแทน บอกเลยว่า โดนใจมากค่ะ เพราะเป็นธุรกิจที่ขายของออนไลน์จริงๆ ขายในชนิดที่ว่า เราได้กำไรเยอะมากๆ ค่ะ  

“แบรนด์เป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงในตลาดมาก แล้วคู่แข่งน้อย การขายสินค้าประเภทนี้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เราจริงๆ ค่ะ เพราะบริษัทจริงจังกับกฎกติกามาก เรียกว่าจะไม่ให้มีการตัดราคาเลย ขนาดตอนนี้เมย์เป็นตัวแทนมา 4 เดือน รู้ไหมคะว่าเดือนแรกก็มีรายได้ 52,000 บาท เดือนที่สอง 160,000 บาท เดือนที่สาม 180,000 บาท และเดือนล่าสุดเนี้ย มียอดถึง 210,000 บาท เป็นอะไรที่ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนจริงๆ ค่ะ”

แบรนด์เตรียมเครื่องมือไว้ให้ทุกอย่าง

เพราะคุณแม่หลายคนมีปัญหาหลังผ่าคลอด ทำให้มีน้ำนมน้อย และในตลาดสินค้าแม่และเด็ก มีการซื้อซ้ำสูงถึง 80% และแบรนด์มีคู่แข่งน้อย มี Demand เยอะ และคุณแม่ส่วนใหญ่จะวางแผนเลี้ยงลูกด้วยนมอย่างน้อย 9 เดือน ถึง 1 ปี ทำให้ Jessie Mum เป็นสินค้าที่จำเป็น และมีความต้องการในตลาด โดย “คุณเมย์” เล่าต่อว่า แบรนด์มีคู่แข่งน้อย ทำให้เราทำการตลาดได้ง่ายขึ้น เราสามารถเป็นเจ้าตลาดได้ บวกกับทางบริษัทมีความพร้อมอย่างมาก ที่จะคอยซัพพอร์ตให้เราทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ , คลิปวีดีโอ และ Q&A ในการตอบคำถามลูกค้า เราไม่ต้องมานั่งคิดเอง ไม่ต้องมานั่งเขียนสคริปต์เอง ชีวิตการเป็นตัวแทนที่นี่ค่อนข้างง่ายมากค่ะ

“หลังสมัครแล้ว อาทิตย์เดียวเราเรียนรู้ได้เต็มที่ทุกอย่างที่ทางแบรนด์มีให้ เช่น Artwork วีดีโอ คำถามที่เราจะต้องตอบลูกค้า รีวิวเราจะต้องเซ็ตไว้ในมือถือ หรือว่าคอมพิวเตอร์ แล้วเราก็ทำตามที่เขาวางเอาไว้ ก็ไม่ได้ยากอะไร ทำตามอย่างเดียวค่ะ ขนาดเราไม่ได้เป็นคุณแม่เอง เราก็ขาย Jessie Mum ได้ ก็ก่อนหน้านี้ที่บอก ขายสินค้าอย่างอื่นมาตั้ง 10 ปี ไม่ปังอะไรสักอย่าง พอทำแบรนด์นี้ยอดทะลุหลักแสนเลยค่ะ ขนาดเพิ่งทำได้ 4 เดือน แต่เป็นอะไรที่เกินคาดมาก”

สินค้ามีความน่าเชื่อถือ
มีการซื้อซ้ำสูง

จุดเด่นของ Jessie Mum อีกอย่างก็คือ เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในบรรดากลุ่มอาหารเสริมเพิ่มน้ำนม และปีๆ หนึ่งมีคุณแม่คลอดลูกประมาณ 5-6 แสนต่อปี นั่นยิ่งทำให้โอกาสในการขายมีมากขึ้น เมื่อบวกกับแพทเทิร์นธุรกิจที่ทางแบรนด์เตรียมให้ เพราะเป็นสินค้ากลุ่มความต้องการ จึงทั้งขายง่ายและใช้ทีมงานน้อย “คุณเมย์” เล่าต่อว่า คุณแม่หลังคลอด ที่มีปัญหาน้ำนมหด หรือน้ำนมอุดตัน ก็สามารถเพื่อช่วยแก้ปัญหาได้เรื่องน้ำนมได้ค่ะ จะเห็นได้ว่าเป็นสินค้าจำเป็นสำหรับคุณแม่จริงๆ ทำให้มีการซื้อซ้ำสูงมากๆ  เมื่อคุณแม่ทานแล้วได้ผลลัพธ์ดี เขาจะกลับมาซื้อซ้ำแบบไม่หยุดยั้งเลยค่ะ ขนาดเรายังรู้สึกภูมิใจที่เป็นแรงสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จค่ะ

“ส่วนใหญ่ที่คุณแม่กลับมาซื้อซ้ำอย่างต่ำเลยบิลละ 2 พันบาท ในหนึ่งกล่อง 890 บาท มี 30 แคปซูล ขายปลีกกล่องละ 890 บาท ถ้าคุณแม่ซื้อทุกเดือน เดือนละ 2 กล่อง ตกเดือนละ 1,780 บาท  และส่วนใหญ่คุณแม่ก็จะให้นมลูกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี บางคนก็ 1 – 2 ปีค่ะ แล้วปีๆ หนึ่งมีคุณแม่คลอดลูก 5-6 แสนคน นี่เป็นตลาดที่ใหญ่และพร้อมเติบโตได้อีกเยอะมากๆ ยิ่งมีการรณรงค์ให้แม่ทุกคนเลี้ยงลูกด้วยนมของตัวเอง เพราะมีคุณแม่ที่ทำงานประจำ หรือเป็นเจ้าของธุรกิจ ทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลาเลี้ยงลูกเลย แต่เขาอยากปั๊มนมเก็บเอาไว้ ตรงนี้ Jessie Mum ตอบโจทย์มากๆ ค่ะ เขาทำสต๊อกได้ สามารถเก็บไว้ให้คนอื่นช่วยเลี้ยงลูกได้”

ห้ามขายตัดราคา

ทุกวันนี้การขายของออนไลน์มีการแข่งขันที่สูง สินค้ามีการขายของซ้ำๆ กันมาก จึงเกิดการเปรียบเทียบราคาได้ง่าย การตั้งราคาและเข้าร่วมโปรโมชั่นต่างๆ เช่น การส่งฟรี หรือ cashback จึงสำคัญมาก และสินค้าที่ขายต้องมีทุนต่ำเพื่อให้มีส่วนต่างของกำไรที่เหลือ “คุณเมย์” พูดต่อว่า ใครที่กำลังมองหาตัวแทนอาชีพเสริม อยากให้ลองมาสมัครกับ Jessie Mum ค่ะ เพราะหลังจากสมัครแล้ว จะมีการควบคุมราคา มีการสอนให้ด้วย ไม่ต้องไปลองผิดลองถูกเอง มีที่ปรึกษาให้ฟรี ไม่ต้องไปลงคอร์สเรียนแพงๆ เลย และทางแบรนด์พร้อมเปิดกว้างในตลาดโลกออนไลน์ เรามาเป็นตัวแทน แทบจะไม่ต้องทำการตลาดเองเลย แบรนด์ทำให้เรียบร้อย

“แตกต่างที่เราไม่ต้องเหนื่อยหาทีมค่ะ แค่ซื้อมาแล้วขายไปเลย เราขึ้นตรงกับบริษัท 100%  และบริษัทมีการเซ็นสัญญากับเราด้วย ว่าเราเป็นตัวแทนกับบริษัทนะ ห้ามมีการตัดราคา ตรงนี้บริษัทเข้มงวดมากๆ ทำให้เราอยู่ในตลาดได้สบายๆ ขายราคาเท่ากันทุกคน นี่เป็นข้อดีที่ทำงานกับ Jessie Mum เลย เพราะก่อนหน้าที่เคยขายอาหารเสริม คู่แข่งจะเยอะ ตัดราคาเยอะ พอลูกค้าได้ผลลัพธ์ดี ผิวดี น้ำหนักลดลง จบแล้วเขาไม่ซื้อต่อแล้ว  แต่ถ้าเป็นอาหารเสริมเพิ่มน้ำนมยังไงเขาก็ต้องซื้อค่ะ ถ้าเขาไม่มีน้ำนมให้ลูก ยังไงเขาก็จะต้องไปพึ่งนมผงที่ราคาสูงกว่ามาก เขาคงไม่อยากเสียเงินแพงๆ เลี้ยงลูกด้วยนมผงไปตลอดหรอกค่ะ”

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทจะมีการตกลงเรื่องผลกำไร หรือกฎ กติกา ต่างๆ กับตัวแทนให้เรียบร้อยก่อน เพราะสิทธิประโยชน์ที่ตัวแทนจะได้รับก็คือ สินค้าที่ราคาถูกกว่าเดิม เพื่อให้เอาไปขายและมีกำไรเพิ่มขึ้นได้  ซึ่งคุณเมย์ ยังได้ฝากทิ้งท้ายว่า

“ไม่ใช่ว่าสมัครตัวแทนแล้วทางบริษัทจะรับเลยนะ เขามีทีมงานพิจารณาคุณสมบัติก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าอยากขายสินค้านี้จริงๆ แล้วตัวแทนน้อยถามว่าดีไหม ดีสำหรับตัวแทนค่ะ แล้วก็ดีสำหรับแบรนด์ เพราะว่าแบรนด์มีการควบคุมราคา และก็มีการจำกัดจำนวนตัวแทน คือตัวแทนไม่ได้เยอะ และบริษัทไม่ได้รับมั่วซั่วด้วยค่ะ”