การใช้นมแม่สำหรับทารกในหน่วยงานดูแลสุขภาพ

การใช้นมแม่สำหรับทารกในหน่วยงานดูแลสุขภาพ

การใช้นมแม่สำหรับทารกในหน่วยงานดูแลสุขภาพเป็นการส่งเสริมให้เด็กได้รับประโยชน์จากโปรตีนและสารอาหารที่สำคัญที่มีอยู่ในนมแม่ นอกจากนี้ การใช้นมแม่ยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของทารก และช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและโรคร้ายแรงต่างๆ


หากหน่วยงานดูแลสุขภาพมีน้ำหนักในการส่งเสริมการใช้นมแม่สำหรับทารก จะต้องมีการจัดทำแผนการส่งเสริมการใช้นมแม่ โดยรวมถึงการให้ข้อมูลและการสนับสนุนทั้งแม่และทารกในการใช้นมแม่อย่างเหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงการสอนวิธีการดูแลและการหย่านมให้ถูกต้อง


นอกจากนี้ หน่วยงานดูแลสุขภาพยังควรส่งเสริมการดูแลสุขภาพของแม่โดยการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบำบัดแผลที่เกี่ยวข้องกับการให้นม การสนับสนุนให้แม่มีการผ่อนคลายและพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อส่งเสริมกระบวนการสู่สุขภาพที่ดีของทั้งแม่และทารกในระยะยาว


นอกจากการส่งเสริมให้ใช้นมแม่สำหรับทารก หน่วยงานดูแลสุขภาพยังควรสนับสนุนและส่งเสริมการเลี้ยงอาหารที่เหมาะสมสำหรับทารก โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกอาหารที่มีสารอาหารที่สำคัญ และวิธีการเตรียมอาหารที่ถูกต้องสำหรับทารก รวมถึงการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการสอนทารกในการกินอาหาร


สุดท้าย หน่วยงานดูแลสุขภาพควรส่งเสริมให้แม่รู้จักกับการดูแลและการเลี้ยงทารกอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการติดตามพัฒนาการของทารก การสนับสนุนให้แม่มีความมั่นใจในการเลี้ยงทารก และการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแนะนำอุปกรณ์และสิ่งของที่เหมาะสมสำหรับการดูแลและเลี้ยงทารกในบ้าน

Reference

  1. “Breastfeeding and the Risk of Sudden Infant Death Syndrome” (2017) – https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa1609117
  1. “The Importance of Breastfeeding in the Development of the Oral Cavity: A Review of the Current Literature” (2020) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7281447/
  1. “The Effect of Breastfeeding on Childhood Cognitive Development: A Meta-analysis” (2018) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5905347/
  1. “Breastfeeding and Maternal and Infant Health Outcomes in Developed Countries” (2019) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6669473/
  1. “Breastfeeding and Its Impact on Maternal and Child Health: A Review of the Evidence” (2019) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6448569