อาหารสำหรับเด็กที่ต้องการเพิ่มสุขภาพที่ดี

อาหารสำหรับเด็กที่ต้องการเพิ่มสุขภาพที่ดี

เราต้องเตรียมพร้อมอย่างดีเพื่อสร้างสุขภาพดีสำหรับเด็กของเรา การเลือกอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กที่ต้องการการเพิ่มความมีสุขภาพดีเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาของเด็ก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการเลือกอาหารสำหรับเด็กที่ต้องการการเพิ่มความมีสุขภาพดี

  1. เลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
    อาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพจะช่วยปรับสมดุลการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย เช่น การเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การสร้างเนื้อเยื่อ การปรับสมดุลของน้ำตาลในเลือด เป็นต้น อาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเด็กได้แก่ผักและผลไม้สด โปรตีนจากเนื้อสัตว์และถั่ว เชื้อโปรไบโอติกจากโยเกิร์ตและเจ้าของคุณภาพอื่นๆ เป็นต้น
  2. หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่เหมาะสม
    อาหารที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กจะทำให้เด็กมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนและโรคอื่นๆ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีระดับน้ำตาลและไขมันสูง เช่น อาหารชนิดแปรรูป อาหารซึ่งปรุงด้วยน้ำตาลทรายและน้ำตาลปึ้บ
  3. อาหารที่แต่ละกลุ่มอาหารต้องการ
    การรวมอาหารที่แต่ละกลุ่มต้องการจะช่วยให้เด็กได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาสมอง แต่ละกลุ่มอาหารประกอบด้วย
  • คาร์โบไฮเดรต
    เป็นแหล่งพลังงานสำหรับร่างกาย ดังนั้นเด็กควรรับประทานข้าว แป้ง และอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก เช่น ข้าวสาลี ข้าวกล้อง ถั่วลิสง ฯลฯ
  • โปรตีน
    เป็นสารอาหารสำหรับสร้างเนื้อเยื่อ ดังนั้นเด็กควรรับประทานเนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ถั่ว เป็นต้น
  • ไขมันดี
    เป็นสารอาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและพัฒนาสมอง อาหารที่มีไขมันดีได้แก่ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมันปลา เป็นต้น
  • วิตามินและแร่ธาตุ
    เป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาสมอง อาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุได้แก่ผักและผลไม้สด โดยเฉพาะผลไม้ที่มีสีสันสดใส เช่น ส้ม มะละกอ และผักเขียวใบต่างๆ เป็นต้น
  1. การรับประทานอาหารที่สมดุล
    การรับประทานอาหารที่สมดุลเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เด็กเติบโตและ


พัฒนาสมองอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม หากเด็กไม่รับประทานอาหารที่สมดุลเพียงพอ อาจส่งผลให้เด็กไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาสมอง การรับประทานอาหารที่สมดุลทำได้โดยเลือกอาหารในแต่ละมื้อให้มีความหลากหลาย และควรรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูงตามกลุ่มอาหารต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น อย่างเช่น

  • เช้า : ควรรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ข้าว ขนมปัง ไข่ ถั่ว เป็นต้น รวมไปถึงผลไม้ที่มีวิตามินและแร่ธาตุสูง เช่น ส้ม แอปเปิ้ล และกล้วย
  • กลางวัน : ควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ และผักเขียวใบ รวมไปถึงข้าวสาร แป้ง เมนูที่ใช้ถั่วเป็นส่วนผสม เช่น ผัดฝักทองใส่หมูสับ ฯลฯ
  • เย็น : ควรรับประทานอาหารที่มีไขมันดีและโปรตีน เช่น ปลา ไก่ และเนื้อสัตว์ต่างๆ รวมถึงผักและผลไม้ที่มีวิตามินและแร่ธาตุสูง เช่น แตงกวา มะละกอ และสับปะรด
  1. รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์
    การรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพจะช่วยเพิ่มสมรรถภาพในการทำงานของร่างกายและสมอง การเลือกอาหารที่มีประโยชน์สูง จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง และเพิ่มพลังในการเรียนรู้ อาทิเช่น
  • ผักและผลไม้สด
    มีสารอาหารที่สำคัญอย่างวิตามินซีและฟอลว์เวอร์ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ หอบหืด และมะเร็ง
  • แป้งและธัญพืช
    เป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตที่ดีและไฟเบอร์ ช่วยลดความอ้วน ปรับระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มพลังในการเรียนรู้
  • อาหารที่มีไขมันดี
    เช่น ไข่ ปลา นม และเมล็ดอาหาร ช่วยเสริมสร้างสารที่ช่วยสร้างสมอง เช่น กรดไขมันอิ่มตัว และไขมันที่ไม่อิ่มตัว
  • อาหารที่มีโปรตีนสูง
    เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ถั่ว เป็นต้น ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงช่วยสร้างสารสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของเด็ก

Reference

  1. “The Effects of Sleep Deprivation on Cognitive Performance” (2010) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2656292/
  2. “The Benefits of Mindfulness Meditation: Changes in Emotional States of Depression, Anxiety, and Stress” (2013) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3772979/
  3. “The Impact of Social Media on Body Image: A Review and Research Agenda” (2017) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5568610/
  4. “The Effects of Exercise on Cognitive Functioning in Older Adults” (2018) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6204138/
  5. “The Relationship between Smartphone Use and Sleep Quality: A Systematic Review and Meta-Analysis” (2019) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6703142/