สาเหตุและวิธีการรักษาอาการตัวเหลืองช่วงตั้งครรภ์

สาเหตุและวิธีการรักษาอาการตัวเหลืองช่วงตั้งครรภ์

    อาการตัวเหลืองในช่วงตั้งครรภ์เป็นอาการที่พบได้บ่อยในหญิงตั้งครรภ์ โดยอาการนี้เกิดจากการสร้างฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน (Progesterone) ที่มีอยู่ในร่างกายขณะตั้งครรภ์ อาการตัวเหลืองส่วนมากจะไม่อันตรายต่อทารกในครรภ์แต่ในบางกรณีอาจแสดงถึงอาการที่รุนแรงขึ้น ดังนั้นคุณแม่ควรรู้จักสาเหตุและวิธีการรักษาอาการตัวเหลืองในช่วงตั้งครรภ์เพื่อเตรียมตัวรับมือได้อย่างถูกต้อง

                 
สาเหตุของอาการตัวเหลืองในช่วงตั้งครรภ์ มาจากการเพิ่มขึ้นของระดับโพรเจสเทอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของทารกในครรภ์ อาการตัวเหลืองส่วนมากจะเกิดขึ้นในช่วง 6-10 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ และสามารถระบุได้จากอาการผิดปกติในสีผิวหนัง ซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนสีไปสีเหลืองหรือซีดลง


วิธีการรักษาอาการตัวเหลืองในช่วงตั้งครรภ์ จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและสภาพแวดล้อมรอบตัว แต่สามารถใช้วิธีเบื้องต้นเพื่อช่วยบรรเทาอาการได้ เช่น

  1. การรับประทานอาหารที่เหมาะสม
    ควรเลือกอาหารที่มีส่วนผสมของโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ และผักใบเขียว รวมทั้งการรับประทานอาหารที่มีค่าพลังงานสูงเช่น ขนมปัง และผลไม้ เพื่อช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย
  2. การรับประทานอาหารเล็กน้อยแต่บ่อยครั้ง
    ควรรับประทานอาหารในปริมาณเล็กน้อยแต่บ่อยครั้งเพื่อลดการเหนื่อยล้าของร่างกาย
  3. การละเว้นอาหารที่มีกลิ่นแรงหรือรสชาติแปลก
    อาหารที่มีกลิ่นแรงหรือรสชาติแปลกอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนเพิ่มเติม
  4. การเคลื่อนไหว
    การออกกำลังกายเบาๆ อย่างเดินเป็นต้นจะช่วยเพิ่มความสบายของร่างกายและช่วยลดอาการตัวเหลืองได้
  5. การพักผ่อน
    การพักผ่อนเพียงพอช่วยลดความเครียดและอาการตัวเหลือง
  6. การรับประทานวิตามินบี6
    วิตามินบี6 มีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการคลื่นไส้และอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์
  7. การรับประทานยา
    หากอาการตัวเหลืองมีระดับรุนแรงจนเป็นกังวลใจและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แพทย์อาจแนะนำให้รับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการ โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่

                    
อัตราการใช้ยาต้องเหมาะสมและอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ยาในช่วงตั้งครรภ์ นอกจากนี้คุณแม่ยังควรระมัดระวังในการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกากและไขมันสูง เนื่องจากอาจทำให้อาการตัวเหลืองเป็นที่รุนแรงขึ้น

                    
 ในกรณีที่อาการตัวเหลืองมีระดับรุนแรงและเกิดการเจ็บท้องหรือปัสสาวะเป็นเลือด คุณแม่ควรพบแพทย์โดยด่วนเพื่อประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์และคุณแม่เอง โดยการตรวจด้วยอุปกรณ์อัลตราซาวด์ (ultrasound) สามารถช่วยทำให้แพทย์ได้เห็นภาพของทารกในครรภ์และประเมินสุขภาพในครั้งนั้นๆได้ดีขึ้น

                    
 สรุปการเปลี่ยนสีผิวหนังเป็นสีเหลืองในช่วงตั้งครรภ์เป็นอาการที่พบได้บ่อย แต่ไม่ต้องกังวลเกินไปเพราะส่วนมากจะไม่มีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ โดยอาการตัวเหลืองสามารถบรรเทาได้ด้วยวิธีเบื้องต้นเช่น การรับประทานอาหารที่เหมาะสม การละเว้นอาหารที่มีกลิ่นแรงหรือรสชาติแปลก การเคลื่อนไหวอย่างเบาๆ และการพักผ่อนเพียงพอ รวมถึงการรับประทานวิตามินบี6 และการพบแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์และคุณแม่เอง ในกรณีที่อาการตัวเหลืองมีระดับรุนแรงและมีอาการเจ็บท้องหรือปัสสาวะเป็นเลือด คุณแม่ควรรีบพบแพทย์โดยด่วนเพื่อประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์และคุณแม่เอง

Reference

  1. Nausea and vomiting in pregnancy: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5772573/ (2017)
  2. Management of nausea and vomiting in pregnancy: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6166163/ (2018)
  3. Acupuncture for the management of nausea and vomiting in pregnancy: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6610508/ (2019)
  4. Ginger for the treatment of nausea and vomiting in pregnancy: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4818021/ (2016)
  5. Pyridoxine for the treatment of nausea and vomiting in pregnancy: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6366843/ (2019)