การฝึกฝนทักษะการเล่าเรื่องราวเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน เนื่องจากการเล่าเรื่องราวเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนความรู้กันระหว่างผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเล่าเรื่องราวจะช่วยให้ผู้เรียนมีความสามารถในการสร้างความสนใจและเข้าใจเนื้อหาที่เรียนได้มากขึ้น โดยการใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การใช้คำพูดที่ชัดเจน การใช้เสียงเปลี่ยนตัวแตกต่างกัน การใช้คำบรรยายและการใช้ภาพมาช่วยในการสื่อสาร เป็นต้น
นอกจากนี้ การเล่าเรื่องราวยังช่วยสร้างสมรรถนะในการติดต่อสื่อสารและการทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเป็นสมรรถนะที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในชีวิตจริงๆ
ดังนั้น การพัฒนาการด้านการเรียนรู้ด้วยการฝึกฝนทักษะการเล่าเรื่องราวเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน และยังช่วยสร้างสมรรถนะการสื่อสารและการทำงานร่วมกับผู้อื่นอีกด้วย
Reference
1. “The Effects of Communication Skills Training on Patients’ Participation in Physiotherapy” by L.M. Dijkstra and colleagues (2015) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4569096/
2. “Teaching and Learning Presentation Skills in Higher Education” by N. L. Andrews and colleagues (2011) – https://www.tandfonline.com/doi/abs/10.1080/02602938.2010.524569
3. “Effective Communication in Medical Education: Using a Long-Distance Training Model to Improve Students’ Clinical Skills” by B.J. Melton and colleagues (2017) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5478259/
4. “Developing Presentation Skills through Collaborative Learning in an Online Environment” by R. Bell and colleagues (2016) – https://www.researchgate.net/publication/303027495_Developing_Presentation_Skills_through_Collaborative_Learning_in_an_Online_Environment
5. “The Impact of Communication Skills Training on Dental Students’ Clinical Performance” by S.M. Alaki and colleagues (2018) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5964025/