สารพิษที่อยู่ในนมแม่

สารพิษที่อยู่ในนมแม่

นมแม่เป็นอาหารที่มีประโยชน์และสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารกและเด็กแรกเกิด แต่อย่างไรก็ตาม นมแม่อาจมีสารพิษบางอย่างที่อาจเข้ามาในร่างกายของทารกผ่านการสัมผัสหรือการรับประทาน ดังนี้

1. สารเมทัลอะล์ (Methylmercury)
สารเมทัลอะล์เป็นสารพิษที่มาจากการปนเปื้อนของปรอทที่มีสารเคมีตกค้าง เมื่อปรอทถูกนำมาปรุงอาหารหรือทำเป็นอาหารเสริม สารพิษจะถูกนำเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์และสัตว์ ซึ่งอาจเข้าสู่นมแม่ผ่านการสัมผัสหรือการบริโภคอาหารที่มีปรอทปนเปื้อน การบริโภคสารเมทัลอะล์อาจทำให้เกิดพิษในระบบประสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กแรกเกิดและทารกน้อยนิด สารพิษชนิดนี้อาจเป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาของสมอง และอาจทำให้เกิดพิการสมองได้

2. สารดิออกซิน (Dioxin)
สารพิษชนิดนี้มักพบได้ในอาหารและสิ่งแวดล้อม เช่น พลาสติก ซึ่งสารพิษชนิดนี้อาจเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนด้วยสารเคมีชนิดนี้ การบริโภคสารดิออกซินอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบของระบบฮอร์โมนและภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาของทารกและเด็กแรกเกิด แต่สารดิออกซินมักพบได้ในปริมาณน้อยในนมแม่ ดังนั้นการดูแลและควบคุมคุณภาพอาหารและสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการปนเปื้อนสารพิษในนมแม่

3. สารกลุ่ม PCBs (Polychlorinated biphenyls)
สารพิษชนิดนี้เป็นสารเคมีตกค้างที่มักพบได้ในสิ่งแวดล้อม เช่น ในอาหารทะเล อาหารประเภทเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากพืช สารพิษชนิดนี้อาจเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ผ่านการบริโภคอาหารหรือการสัมผัส การบริโภคสารพิษชนิดนี้อาจเป็นอันตรายต่อระบบภูมิคุ้มกันและสมอง อย่างไรก็ตาม สารพิษชนิดนี้มักพบได้ในปริมาณน้อยในนมแม่ และการดูแลและควบคุมคุณภาพอาหารและสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการปนเปื้อนสารพิษในนมแม่

4. สารสังเคราะห์ (Pesticides)
สารพิษชนิดนี้เป็นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มักถูกใช้ในการเกษตรและการผลิตอาหาร สารพิษชนิดนี้มักถูกพ่นฉีดบนพืชหรือถูกใช้ในการควบคุมแมลง การบริโภคอาหารที่มีสารสังเคราะห์อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายและสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กแรกเกิดและทารกน้อยนิด แต่สารพิษชนิดนี้มักพบได้ในปริมาณน้อยในนมแม่ และการดูแลและควบคุมคุณภาพอาหารและสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการปนเปื้อนสารพิษในนมแม่

สำหรับนมแม่ที่ผ่านการผลิตและจัดเก็บอย่างถูกต้อง นั่นหมายความว่านมแม่เป็นอาหารที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาของทารกและเด็กแรกเกิด ดังนั้น ควรมั่นใจว่านมแม่ที่ได้รับมามีคุณภาพและปลอดภัยก่อนที่จะให้ทารกดื่มนมแม่ และหากมีความเสี่ยงที่นมแม่อาจมีสารพิษปนเปื้อน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเพื่อขอคำแนะนำในการดูแลและเลือกอาหารที่เหมาะสมให้แก่ทารกและเด็กแรกเกิด

Reference

1. “Breastfeeding and the Risk of Childhood Leukemia: A Meta-analysis,” published in PLOS ONE in 2015. URL: https://journals.plos.org/plosone/article?id=10.1371/journal.pone.0138677

2. “Breastfeeding and Maternal and Infant Health Outcomes in Developed Countries,” published in Evidence Report/Technology Assessment No. 153 by the Agency for Healthcare Research and Quality in 2007. URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK38402/

3. “Breastfeeding and Its Impact on Child Cognitive Development: A Meta-analysis,” published in Acta Paediatrica in 2011. URL: https://onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1111/j.1651-2227.2010.02008.x

4. “Breastfeeding and Its Association with Maternal Hypertension and Type 2 Diabetes: A Systematic Review and Meta-analysis,” published in Diabetic Medicine in 2019. URL: https://onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1111/dme.13872

5. “Breastfeeding and Risk of Sudden Infant Death Syndrome: A Systematic Review and Meta-analysis,” published in Pediatrics in 2017. URL: https://pediatrics.aappublications.org/content/140/2/e20171324

6. “Breastfeeding and the Risk of Allergic Disease or Food Allergy: A Systematic Review and Meta-analysis,” published in Pediatrics in 2018. URL: https://pediatrics.aappublications.org/content/142/4/e20174213