ผลกระทบของอาหารจานด่วนต่อสุขภาพของเด็ก

ผลกระทบของอาหารจานด่วนต่อสุขภาพของเด็ก

การรับประทานอาหารจานด่วนอย่างสม่ำเสมออาจทำให้เด็กขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพได้แก่โปรตีน ไขมันไม่อิ่มตัว และใยอาหาร ทั้งนี้อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาของเด็กได้


โปรตีนเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในช่วงวัยเติบโตและพัฒนา เนื่องจากโปรตีนเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์และกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการเจริญเติบโตของเด็ก การรับประทานอาหารจานด่วนที่มีโปรตีนน้อยอาจทำให้เด็กขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตได้นอกจากนี้ อาหารจานด่วนมักจะมีไขมันไม่อิ่มตัว 


การรับประทานอาหารจานด่วนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยมากในชีวิตประจำวันของครอบครัวไทย เนื่องจากความคล่องตัวและความสะดวกในการจัดหาอาหารแบบนี้ แต่หลายครั้งอาหารจานด่วนอาจมีส่วนผสมที่ไม่เหมาะสมกับสุขภาพ และอาจมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาของเด็กได้


การรับประทานอาหารจานด่วนที่มีส่วนผสมอาหารที่มีประโยชน์เพียงบางอย่างอาจทำให้เด็กได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเด็ก โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาล อาหารไขมันสูง และโซเดียมสูง ที่อาจส่งผลต่อน้ำหนักและสุขภาพของเด็กได้


อีกปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยคือการสร้างนิสัยในการรับประทานอาหารจานด่วนเป็นระยะยาว ทำให้เด็กไม่สามารถรับประทานอาหารที่เหมาะสมต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะเมื่ออาหารจานด่วนมีส่วนผสมของอาหารที่ไม่เหมาะสมเป็นประจำ การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารสมดุลสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับเด็กในช่วงอายุสำคัญ 


อาหารจานด่วนที่มีอยู่กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน มักจะเป็นที่นิยมของคนทำงานหรือคนที่มีเวลาว่างน้อย ซึ่งเด็กเองก็ไม่ได้หลีกเลี่ยงอาหารแบบนี้ไป เพราะมักจะเสี่ยงต่อการรับประทานอาหารไม่สมดุลย์และมีผลกระทบต่อสุขภาพได้ เรามาดูว่าอาหารจานด่วนมีผลกระทบอย่างไรต่อสุขภาพของเด็กกันดีกว่า

  1. อาหารจานด่วนมักมีปริมาณโซเดียมสูง อาหารจานด่วนมักจะมีส่วนผสมของซอสและน้ำตาลเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อเพิ่มรสชาติและความอร่อย ซึ่งอาจทำให้มีปริมาณโซเดียมสูงกว่าที่เด็กควรได้รับ โซเดียมมากเกินไปสามารถเสี่ยงต่อการเสียดายน้ำในร่างกาย และเป็นอันตรายต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงในอนาคต
  2. อาหารจานด่วนมักมีปริมาณไขมันสูง อาหารจานด่วนมักมีปริมาณไขมันสูง เพราะอาหารแบบนี้มักจะใช้วัตถุดิบที่มีไขมันสูงเช่น เนื้อสัตว์ เนื้อปลา เป็นต้น การรับประทานไขมันมากเกินไปอาจทำให้เด็กมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนและโรคหัวใจในอนาคต
  3. อาหารจานด่วนหรือฟาสต์ฟู้ดมักจะมีการใช้วัตถุดิบที่มีปริมาณน้ำตาลสูง โซเดียมสูง และไขมันไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น อาหารจานด่วนที่จำหน่ายในร้านอาหารแฟสต์ฟู้ดหรือร้านอาหารด่วน อาหารชนิดนี้สามารถทำให้เด็กอ้วน เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และภาวะความดันโลหิตสูงได้


การรับประทานอาหารจานด่วนยังส่งผลต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเด็กอีกด้วย อาหารจานด่วนมักจะมีการเตรียมไว้ให้ทานง่าย และไม่ต้องใช้เวลาในการเตรียมอาหาร ทำให้เด็กไม่ค่อยได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการ เตรียมอาหารและการเลือกซื้อวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ สิ่งนี้อาจส่งผลให้เด็กเจอปัญหาด้านโภชนาการในอนาคต


นอกจากนี้ การรับประทานอาหารจานด่วนยังส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเด็กในอนาคต โดยเด็กจะมีแนวโน้มที่จะเลือกอาหารจานด่วนแทนการรับประทานอาหารที่เตรียมไว้บ้างที่บ้าน ซึ่งอาจจะไม่ดีต่อการ เตรียมอาหารและการเลือกซื้อวัตถุดิบที่สร้างสุขภาพดีต่อเด็ก


หากลูกของคุณแม่มักจะรับประทานอาหารจานด่วนอย่างบ่อย อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กได้แก่เสี่ยงต่อโรคอ้วน ภาวะเบาหวาน และภาวะสูงความดันโลหิต ดังนั้น เราจึงต้องมีการให้ความสำคัญกับอาหารที่ดีต่อสุขภาพเด็ก เพื่อให้เด็กได้รับสารอาหารที่สมดุลและสร้างสุขภาพที่ดีได้


การรับประทานอาหารจานด่วนเป็นที่นิยมของเด็ก เนื่องจากอาหารจานด่วนมักจะมีรสชาติที่สดชื่นและเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก อย่างไรก็ตามอาหารจานด่วนมักจะมีปริมาณน้ำตาล โซเดียม และไขมันสูง ทำให้การรับประทานอาหารจานด่วนอย่างบ่อยๆ อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน และสูงความดันโลหิตได้


การรับประทานอาหารจานด่วนเป็นเรื่องปกติของเด็ก อย่างไรก็ตามคุณแม่ควรจะมีการตรวจสอบปริมาณสารอาหารที่เด็กได้รับและพยายามทำให้เด็กได้รับประโยชน์ที่ดีจากอาหารที่บริโภค ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีของเด็กควรมีการกำหนดอาหารที่มีปริมาณน้ำตาล โซเดียม และไขมันต่ำในอาหารจานด่วน ดังต่อไปนี้

Reference

  1. “The Effects of Sleep Deprivation on Cognitive Performance” (2010) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2656292/
  2. “The Benefits of Mindfulness Meditation: Changes in Emotional States of Depression, Anxiety, and Stress” (2013) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3772979/
  3. “The Impact of Social Media on Body Image: A Review and Research Agenda” (2017) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5568610/
  4. “The Effects of Exercise on Cognitive Functioning in Older Adults” (2018) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6204138/
  5. “The Relationship between Smartphone Use and Sleep Quality: A Systematic Review and Meta-Analysis” (2019) – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6703142/