การบำรุงสุขภาพหลังคลอดเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะเป็นช่วงที่แม่มีการฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกายและสมอง ดังนั้นการบริโภคอาหารที่มีสารอาหารที่เพียงพอและเหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตและฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกายหลังคลอดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ
นี่คือสารอาหารที่ช่วยในการป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพในช่วงหลังคลอด
- โปรตีน
มีประโยชน์ในการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย แนะนำให้บริโภคประมาณ 50-60 กรัมต่อวัน ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว นม และผลิตภัณฑ์จากนม - แคลเซียม
เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยในการป้องกันโรคกระดูกพรุน แนะนำให้บริโภคประมาณ 1000-1300 มิลลิกรัมต่อวัน ได้แก่ นม อาหารที่เสริมแคลเซียม เช่น เนย ไข่แดง และเนื้อสัตว์ - ธาตุเหล็ก
ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง และป้องกันโรคภูมิคุ้มกันต่ำ แนะนำให้บริโภคประมาณ 27 มิลลิกรัมต่อวัน ได้แก่ เนื้อสัตว์ เป็ด และอาหารที่เสริมธาตุเหล็ก - กรดไขมันโอเมก้า-3
ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเสี่ยงต่อการเกิดภูมิคุ้มกันผิดปกติ แนะนำให้บริโภคประมาณ 250-500 มิลลิกรัมต่อวัน ได้แก่ ปลา และอาหารเสริมโอเมก้า-3 - วิตามิน D
เป็นสารอาหารที่ช่วยในการปรับสมดุลการดูดซึมและการใช้งานแคลเซียมในร่างกาย แนะนำให้บริโภคประมาณ 600-800 ยูนิตต่อวัน ได้แก่ เนื้อสัตว์ อาหารที่เสริมวิตามิน D เช่นเห็ด และนม - ฟอสฟอรัส
เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยในการสร้างและฟื้นฟูกระดูกและฟัน แนะนำให้บริโภคประมาณ 600-1000 มิลลิกรัมต่อวัน ได้แก่ เนื้อสัตว์ อาหารที่เสริมฟอสฟอรัส เช่น นมและอาหารทะเล
การบริโภคอาหารที่มีสารอาหารที่เหมาะสมในปริมาณที่เพียงพอสามารถช่วยป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพในช่วงหลังคลอดได้มากเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อทำแผนการกินที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและความต้องการของแม่ให้เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
Reference
- “Maternal nutrition and breastfeeding outcomes” (2017) by S. Schramm and C. Ardilouze. URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5717717/
- “Breastfeeding and maternal diet: recommendations and controversies” (2014) by K. L. Erickson et al. URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4255259/
- “Breastfeeding and maternal diet: a systematic review” (2013) by K. L. Erickson et al. URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3705350/
- “Maternal diet and breastfeeding: a systematic review” (2008) by L. Gardner and J. R. Hull. URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2649489/