น้ำนมแม่เป็นสิ่งที่สำคัญและมีประโยชน์อย่างมากต่อทั้งแม่และทารกในช่วงเริ่มต้นของชีวิต เนื่องจากน้ำนมแม่ประกอบไปด้วยสารอาหารและฮอร์โมนที่มีคุณค่าสูง แต่การที่มีฮอร์โมนอยู่ในน้ำนมแม่ก็สามารถส่งผลกระทบต่อระบบประสาทของแม่ได้
หลายๆ คนอาจจะรู้จักฮอร์โมนเพียงเล็กน้อย แต่ฮอร์โมนมีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกายเรา โดยเฉพาะเมื่อเราพูดถึงฮอร์โมนที่มีอยู่ในน้ำนมแม่ ซึ่งได้แก่ โพรลัคติน (prolactin) และออกซิโตซิน (oxytocin) ซึ่งมีผลต่อการสร้างและการปลดปล่อยน้ำนมแม่
โพรลัคตินเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างน้ำนมและการรักษาการทำงานของเต้านม ซึ่งการเรียกร้องของทารกเวลาที่ต้องการน้ำนมจะกระตุ้นการปลดปล่อยโพรลัคติน เพื่อเริ่มการผลิตน้ำนมและเตรียมพร้อมสำหรับการให้น้ำนม
ออกซิโตซินเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการบีบตัวของเต้านม เพื่อส่งผลให้น้ำนมทำงานของออกซิโตซินมีผลต่อความผูกพันและความสัมพันธ์ระหว่างน้ำนมแม่ก็มีฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องเช่นกัน ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาทของแม่ การเริ่มต้นเมื่อเตรียมตัวสำหรับการทำงานของระบบประสาทสัมผัส (sensory nervous system) ที่ติดตั้งไว้ในเต้านมแม่ การดูดน้ำนมจะกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทสัมผัส ซึ่งเป็นการเรียกฮอร์โมนออกซิโตซิน เพื่อกระตุ้นน้ำนมแม่ โดยทำให้เต้านมเตรียมพร้อมสำหรับการสัมผัส
อย่างไรก็ตาม การมีฮอร์โมนในน้ำนมแม่นั้นอาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาทของแม่ ซึ่งอาจทำให้แม่รู้สึกเหนื่อยล้า การรักษาสุขภาพด้วยการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพที่ดีอาจช่วยลดอาการเหล่านี้ได้
Reference
- “Oxytocin and prolactin concentrations in breast milk during suckling” by G. Fransson and L. Akerlund, published in Acta Paediatrica in 1995. URL: https://doi.org/10.1111/j.1651-2227.1995.tb13895.x
- “Breastfeeding and the mother-infant relationship: hormones and behavior” by I. Groschl, published in the International Journal of Environmental Research and Public Health in 2019. URL: https://doi.org/10.3390/ijerph16111913
- “Neuroendocrine regulation of maternal behavior” by C. Kinsley and K. M. Lambert, published in Frontiers in Neuroendocrinology in 2008. URL: https://doi.org/10.1016/j.yfrne.2008.03.002
- “Hormonal mediation of maternal behavior in nonhuman mammals” by E. L. Tobet, published in Hormones and Behavior in 1999. URL: https://doi.org/10.1006/hbeh.1999.1543