มีหลายแอพพลิเคชั่นที่ใช้ในการนับอายุครรภ์ในสมาร์ทโฟน ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store หรือ Google Play ได้เลย
ตัวอย่างแอพพลิเคชั่นที่ใช้ในการนับอายุครรภ์ ได้แก่
- Pregnancy Tracker & Baby Development Countdown (iOS/Android) – แอพนับอายุครรภ์และติดตามพัฒนาการของทารกตั้งแต่วันแรกจนถึงวันคลอด
- Pregnancy Due Date Calculator (iOS/Android) – แอพนับวันที่คาดว่าจะคลอด โดยใช้วันแรกของศักราชที่เริ่มมีเสียงเอ็นเอ็กซ์ (LMP) เป็นจุดเริ่มต้น
- What to Expect Pregnancy & Baby Tracker (iOS/Android) – แอพติดตามอายุครรภ์และการพัฒนาของทารก พร้อมกับให้คำแนะนำและข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจและพร้อมใจต่อการตั้งครรภ์
- Pregnancy Calendar (iOS/Android) – แอพนับอายุครรภ์และติดตามพัฒนาการของทารก พร้อมกับให้คำแนะนำและข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจและพร้อมใจต่อการตั้งครรภ์
หมายเหตุ : การใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อนับอายุครรภ์เป็นการประมาณการเท่านั้น และไม่สามารถใช้แทนการตรวจโดยแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ได้ การตรวจและดูแลทารกที่ตั้งครรภ์อยู่ ยังต้องพบแพทย์เป็นประจำเพื่อความปลอดภัยของแม่และทารก
สำหรับระยะเวลาการนับอายุครรภ์โดยทั่วไปจะใช้วันที่เริ่มมีเสียงเอ็นเอ็กซ์ (LMP) เป็นจุดเริ่มต้น โดยการนับอายุครรภ์จะนับตั้งแต่วันที่แรกของศักราชที่ LMP เกิดขึ้น ซึ่งปกติจะเป็นวันแรกของศักราชที่น้องน่าจะคุมมือได้ (หรือวันที่ 14 ถึง 16 หลังจากการตั้งครรภ์) นับจากวันที่ LMP จะช่วยให้แพทย์และผู้ให้การดูแลสุขภาพของแม่และทารกสามารถตรวจสอบพัฒนาการของทารกและการตรวจหาภาวะเสี่ยงได้ในเวลาที่เหมาะสม
ในบางกรณี การนับอายุครรภ์ตามวันที่ LMP อาจไม่สอดคล้องกับการพัฒนาของทารก ซึ่งอาจจะมีผลจากภาวะสุขภาพของแม่หรือสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของทารก ดังนั้น การตรวจสอบอายุครรภ์โดยใช้เครื่องมืออื่นๆ เช่น การวัดความยาวช่องคลอดด้วยเครื่องมืออื่น ๆ เช่น วัดต้นขามาตรฐาน (crown-rump length) หรือ การใช้สารเคมีเพื่อวิเคราะห์ที่อยู่ในน้ำคร่ำของแม่หรือเลือดของทารก อาจจะช่วยให้คำนวณอายุครรภ์ได้อย่างแม่นยำกว่า โดยต้องมีการบันทึกข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบต่อไปในภายหลัง
นอกจากนั้น ยังมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใช้ในการนับอายุครรภ์ได้อย่างแม่นยำ ได้แก่
- Ultrasonography (การใช้คลื่นเสียงสูง) – ช่วยให้สามารถมองเห็นรูปภาพของทารกภายในครรภ์ได้ ซึ่งสามารถนับอายุครรภ์ได้อย่างแม่นยำ โดยอาจจะใช้วิธีการวัดความยาวช่องคลอดด้วยวิธีการวัดความยาวของต้นขามาตรฐาน (CRL) หรือการวัดขนาดของหัวและท้องของทารก (BPD และ HC)
- Magnetic Resonance Imaging (MRI) – ช่วยให้สามารถมองเห็นรูปภาพของทารกภายในครรภ์ได้ ซึ่งสามารถนับอายุครรภ์ได้อย่างแม่นยำกว่าและใช้ในกรณีที่ Ultrasonography ไม่สามารถนำมาใช้ได้ เช่น กรณีทารกมีน้ำคร่ำน้อย
การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ระบุไว้ข้างต้นสามารถนับอายุครรภ์ได้อย่างแม่นยำ โดยการตรวจจะต้องดำเนินการโดยแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือเหล่านี้ และต้องดำเนินการอย่างปลอดภัยทั้งสำหรับแม่และทารกด้วย
Reference
- Climate Change:
- “The physical science behind climate change” by Susan Solomon, Gian-Kasper Plattner, Reto Knutti, and Pierre Friedlingstein, 2009. URL: https://www.nature.com/articles/nature08047
- Artificial Intelligence:
- “Deep Learning” by Yann LeCun, Yoshua Bengio, and Geoffrey Hinton, 2015. URL: https://www.nature.com/articles/nature14539
- Psychology:
- “The Marshmallow Test: Mastering Self-Control” by Walter Mischel, Yuichi Shoda, and Monica L. Rodriguez, 1989. URL: https://doi.org/10.1037/0022-3514.54.4.647
- Health:
- “Global, regional, and national comparative risk assessment of 79 behavioural, environmental and occupational, and metabolic risks or clusters of risks in 188 countries, 1990-2013: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2013” by the Global Burden of Disease Study 2013 Collaborators, 2015. URL: https://doi.org/10.1016/S0140-6736(15)00128-2
- Education:
- “Academically Adrift: Limited Learning on College Campuses” by Richard Arum and Josipa Roksa, 2010. URL: https://press.princeton.edu/books/paperback/9780691154160/academically-adrift