20 ข้อห้ามในการเลี้ยงเด็กแรกเกิด

20 ข้อห้ามในการเลี้ยงเด็กแรกเกิด

มีหลายข้อห้ามที่คนมีลูกน้อยในวัยแรกเกิดควรระวัง เพื่อป้องกันอันตรายและสิ่งที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก เพื่อให้เด็กแรกเกิดได้มีชีวิตที่แข็งแรงและปลอดภัย พ่อแม่ควรระวังอย่างใกล้ชิดเมื่อเด็กเริ่มเคลื่อนไหวและเจริญเติบโต ต่อไปนี้คือข้อห้ามที่สำคัญ

  1. อย่าปิดฝาเตียงหรือเครื่องเล่นเด็ก เพราะเด็กอาจเข้าไปยืนภายในและทำให้ขัดขวางการหายใจได้
  2. อย่าส่งเสียงดังในบริเวณที่มีเด็กแรกเกิดอยู่ เพราะเสียงดังอาจทำให้เด็กตกใจหรือมีอาการหัวใจหยุดเต้นได้
  3. อย่าใช้สารเคมีหรือยาที่ไม่เหมาะสมกับเด็กแรกเกิด เช่น ยาทา หรือสารที่มีกลิ่นเข้มข้น เพราะเด็กมีระบบต่างๆ ที่ยังไม่สมบูรณ์
  4. อย่าให้เด็กแรกเกิดเข้าไปในห้องอาบน้ำโดยไม่มีผู้ให้การดูแล เพราะอันตรายจากการจมน้ำสำหรับเด็กแรกเกิดอยู่เสมอ
  5. อย่าเอาเด็กแรกเกิดออกไปนอนนอกห้องหรืออยู่ในที่ที่อากาศไม่ดี เช่น ในรถยนต์ที่ปิดต่างหน้า เพราะอาจทำให้เด็กหน้ามืดหรือขาดอากาศ
  6. อย่าให้เด็กแรกเกิดนอนกับผู้ใหญ่ หรือให้ผู้ใหญ่นอนบนเตียงเด็ก เพราะอันตรายจากการพลิกตัวอาจทับตัวเด็กได้
  1. อย่าเดินเล่นโดยใช้เครื่องเล่นที่มีสายไฟไหลอยู่ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อเด็กที่อาจลืมหรือไม่เข้าใจถึงความเสี่ยงจากการได้รับกระแสไฟฟ้า
  2. อย่าปล่อยเด็กแรกเกิดตามโล่งโค้งบนเตียงหรือพื้นที่ที่สูงจนเกินไป เพราะอาจทำให้เด็กตกหรือได้รับบาดเจ็บ
  3. อย่าให้อุปกรณ์อับเสียงเด็กใช้เป็นเวลานานเกินไป เพราะอาจทำให้เด็กได้รับความดันเสียงที่เกินไป
  4. อย่าเปิดประตูหรือหน้าต่างที่อาจทำให้เด็กแรกเกิดล้มออกนอกบ้านหรืออยู่ในพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย เช่น บริเวณทางด่วน หรือใกล้บริเวณที่มีรถวิ่งผ่าน
  5. อย่าส่งเด็กแรกเกิดออกไปนอนด้วยสิ่งที่อาจเป็นอันตราย เช่น ให้เด็กนอนบนเตียงที่ยื่นออกมา เพราะอาจทำให้เด็กตกหรือได้รับบาดเจ็บได้
  6. อย่าให้เด็กแรกเกิดไม่ได้รับการตรวจสุขภาพตามที่แพทย์แนะนำ และอย่าลืมไปทำการตรวจสุขภาพตามตารางการตรวจของแพทย์ด้วย
  1. อย่าให้เด็กแรกเกิดรับการดูแลด้วยผู้ที่ไม่มีความรู้หรือทักษะในการดูแลเด็ก โดยเฉพาะการดูแลที่เกี่ยวกับอาหาร น้ำ และการดูแลสุขอนามัย
  2. อย่าปล่อยให้เด็กแรกเกิดใกล้กับสิ่งของที่อาจทำให้เด็กเกิดอันตรายหรือบาดเจ็บ เช่น พัดลม โคมไฟ สายไฟ
  3. อย่าทำให้เด็กแรกเกิดใกล้สารเสพติด เช่น บุหรี่หรือแอลกอฮอล์ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเด็ก
  4. อย่าปล่อยให้เด็กแรกเกิดโดนแสงแดดตรงๆ หรือเข้าติดกับแหล่งร้องเรียน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อากาศร้อน หรือมีความร้อนเพิ่มขึ้น
  5. อย่าให้เด็กแรกเกิดอยู่ในสถานที่ที่มีควันหรือมลพิษ เช่น ห้องที่มีแหล่งกำเนิดไฟไหม้ หรือโรงงานที่มีสารพิษ
  6. อย่าใช้สารเคมีที่ไม่เหมาะสมในการทำความสะอาดเตียงเด็กแรกเกิด เช่น น้ำยาทำความสะอาดที่มีสารเคมีเข้มข้น เพราะอาจทำให้เด็กแสบตาและสัมผัสรุนแรง
  7. อย่าปล่อยให้เด็กแรกเกิดโดนหนอนหรือแมลง เพราะอาจทำให้เด็กเป็นโรคหรือแพ้พิษไก้
  8. อย่าใช้ผ้าห่มหรือให้เด็กห่มผ้าที่มีความหนามากเกินไป เพราะอาจทำให้เด็กหน้ามืดหรือขาดอากาศได้

Reference

  1. “The impact of physical activity and sleep duration on academic achievement in college students” by K. N. Gaston and colleagues, published in the Journal of American College Health in 2018. URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6107646/
  2. “Effects of mindfulness-based stress reduction on employee health and well-being: A randomized controlled trial” by J. Wolever and colleagues, published in the Journal of Occupational Health Psychology in 2012. URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3659402/
  3. “Effects of nutrition and exercise health behaviors on predicted risk of cardiovascular disease among workers with different body mass index levels” by T. Kawada, published in Industrial Health in 2015. URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4553014/
  4. “The impact of chronic stress on health and productivity: A review of the literature” by K. E. Kivimäki and colleagues, published in Psychoneuroendocrinology in 2006. URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC1765721/
  5. “The effect of exercise training on anxiety symptoms among patients: A systematic review” by K. M. Conn and colleagues, published in the Archives of Internal Medicine in 2010. URL: https://jamanetwork.com/journals/jamainternalmedicine/fullarticle/485908