การนอนหลับหลังคลอดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายของคุณแม่ฟื้นฟูและพักผ่อนได้ดีขึ้น การใช้ที่นอนและอุปกรณ์ช่วยหลังคลอดเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณแม่มีการหลับหลายชั่วโมงต่อคืนได้อย่างสบายตา จึงขอแนะนำการใช้ชั้นนอนและอุปกรณ์ช่วยหลังคลอดที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ที่ต้องการหลับหลายชั่วโมงต่อคืนให้ดีขึ้น
- การเลือกที่นอน : คุณแม่ควรเลือกใช้ชั้นนอนที่มีความอุ่นสบายและไม่กดทับตัว โดยเฉพาะช่วงแรกหลังคลอดที่มีบาดแผล คุณแม่ควรเลือกใช้ชั้นนอนที่เหมาะสมกับตัวเพื่อช่วยให้คุณแม่มีการหลับหลายชั่วโมงต่อคืนได้อย่างสบายตา
- หมอนข้าง : หมอนข้างจะช่วยให้คุณแม่สามารถหลับหลายชั่วโมงต่อคืนได้อย่างสบายตา โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีความไม่สบายเมื่อนอนตะแคงหรือนอนหงาย การใช้หมอนข้างจะช่วยลดการกดทับกับหลังและไหล่ของคุณแม่
- การนั่ง : การนั่งที่ถูกวิธีเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังและช่วยลดความเจ็บปวดหลังได้ดี คุณแม่สามารถนั่งได้ทุกเวลาที่มีเวลาว่างหรือไม่มีกิจกรรมที่ต้องทำ การนั่งนั้นเป็นวิธีการที่ไม่ต้องใช้พลังงานมาก และสามารถทำได้ทั้งขณะชมทีวีหรืออ่านหนังสือ
- การยกหัวเตียง : การยกหัวเตียงจะช่วยลดการกดทับหลังและไหล่ของคุณแม่ โดยเฉพาะหลังจากที่คุณแม่คลอด การยกหัวเตียงจะช่วยลดอาการแน่นหลังและอาการปวดหลัง
- นวดเพื่อผ่อนคลาย : การนวดหลังและไหล่จะช่วยลดความเจ็บปวดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ การนวดยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและช่วยเพิ่มความผ่อนคลายให้กับคุณแม่
- การใส่ชุดนอนหลังคลอด : ชุดที่นอนหลังคลอดจะช่วยให้คุณแม่สามารถหลับหลายชั่วโมงต่อคืนได้อย่างสบายตา โดยชุดที่นอนหลังคลอดจะมีรูปทรงที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณแม่หลังคลอด
- อุปกรณ์ช่วยกำหนดท่านอน : อุปกรณ์ช่วยกำหนดท่านอนจะช่วยให้คุณแม่มีท่านอนที่ถูกต้องและสบายตา โดยอุปกรณ์ช่วยกำหนดท่านอนจะช่วยปรับให้ร่างกายของคุณแม่อยู่ในท่านอนที่เหมาะสมกับร่างกาย
- การปรับแต่งห้องนอน : การปรับแต่งห้องนอนจะช่วยเพิ่มความสบายให้คุณแม่ โดยการใช้สีที่เหมาะสม และการใช้ไฟที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสบายให้กับคุณแม่
สำหรับการดูแลรูปร่างหลังคลอดมีความสำคัญอย่างมากในการฟื้นฟูร่างกายของคุณแม่ การใช้ชั้นนอนและอุปกรณ์ช่วยหลังคลอด การหลับหลายชั่วโมงต่อคืน การใช้ชุดที่นอนหลังคลอด และการปรับแต่งห้องนอนเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความสบายให้กับคุณแม่ในช่วงหลังคลอด รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ด้วยค่ะ
Reference
- “Postpartum maternal outcomes and implications for practice” by Stephanie DeVane-Johnson and Peggy Ward-Smith (2017). URL: https://journals.lww.com/advancesinneonatalcare/Abstract/2017/08000/Postpartum_Maternal_Outcomes_and_Implications_for.4.aspx
- “Postpartum rehabilitation: guidelines for pelvic floor safe exercises” by M. Villalta, A. Martín-Rodríguez, and C. López-Pineda (2021). URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7806143/
- “Physical therapy interventions for postpartum women: a systematic review” by Kari Bø, Linda C. McParland, and Marta M. Borgen (2017). URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5510677/
- “The effectiveness of pelvic floor muscle exercise interventions in the prevention and treatment of pelvic organ prolapse: a systematic review” by Leslie M. Curtis and Lorna P. Marson (2016). URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4861043/
- “The effect of a specially designed exercise program on postpartum recovery” by Hong-Ha M. Truong, Karen A. Roberto, and Jenevieve R. Lenz (2018). URL: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6198032/