เปิดใจ “สรรเสริญ จตุรภัทร” CEO ผู้ปลุกปั้น Jessie Mum “ผมเชื่อเรื่องกฎ 10,000 ชั่วโมง อยากสำเร็จ เราต้องอยู่กับมัน”

วินาทีนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักแบรนด์ Jessie Mum ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพิ่มน้ำนมแม่ โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ที่ต้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในช่วง 6 เดือนแรก หรือนานกว่านั้น ซึ่งแบรนด์มุ่งเน้นเอาใจใส่ดูแลคุณแม่ลูกอ่อนหลังการขายเป็นอย่างดี ทำให้มีความน่าเชื่อถือ มั่นใจ มีการบอกต่อ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำกับคุณแม่ทุกท่าน เพื่อให้คุณแม่ใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด และแก้ปัญหาในเรื่องของน้ำนมน้อยได้อย่างง่ายดาย  

ซึ่งปัจจัยแห่งความสำเร็จนี้มาจากภายใต้การบริหารงานของ CEO หนุ่มไฟแรง “คุณเอิร์น-สรรเสริญ จตุรภัทร” บอกเลยว่าซีอีโอคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้บริหารที่ไม่ธรรมดา ใช้กลยุทธ์เด็ดในการสร้างธุรกิจที่เติบโตด้วยจุดขายที่แตกต่าง สามารถโตสวนกระแสในท่ามกลางมรมุสจากโควิด-19 และผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน เห็นได้จากยอดขายของบริษัทที่เติบโตทะลุเป้าทุกปี! และวันนี้จะมาพูดคุยถึงมุมมองและทัศนคติของเขาในการสร้างแบรนด์สมุนไพรเพิ่มน้ำนมแม่ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

จุดเริ่มสร้างแบรนด์ Jessie Mum

สำหรับ “คุณเอิร์น” มีแนวคิดในการทำธุรกิจที่แตกต่าง ด้วยการเลือกที่จะเติบโตในตลาดเฉพาะกลุ่ม และต้องเป็นสินค้าที่มีการซื้อซ้ำจริงๆ เพราะเชื่อมั่นว่าจะทำให้แข่งขันง่าย จึงได้สร้างแบรนด์ Jessie Mum ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีจุดขายที่ไม่เหมือนสินค้าที่มีในตลาดทั่วไป และให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าจริงๆ

ซีอีโอหนุ่ม ได้เล่าว่า ถ้าเรามั่นใจในตลาดที่เราเลือก ก็ต้องพร้อมที่จะสู้กับมัน ลงมือศึกษาและวิจัยเพื่อพัฒนาสินค้าออกมาให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า อย่าไปยึดติดกับความสำเร็จแบบเดิม และการทำธุรกิจต้องอย่ากลัวที่จะสร้างแบรนด์ใหม่ ต้องมีไฟอยู่ตลอดเวลา ต้องมองหาโอกาสใหม่อยู่ตลอดเวลา

     “ผมเริ่มต้นธุรกิจด้วยความไม่เข้าใจเรื่องน้ำนมแม่ แต่ผมเห็นโอกาสจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนรอบตัว จึงเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมถึงพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่เลี้ยงลูกด้วยนมหลังคลอด จากนั้นได้ให้ทีมงานศึกษาและวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญ จนพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณแม่ในยุคใหม่  และ Jessie Mum คือโปรดักส์ที่ช่วยให้คุณแม่มีน้ำนม เพื่อเลี้ยงลูก ทำให้ลูกได้เข้าเต้า ได้ส่งต่อความรักระหว่างแม่กับลูก มีสต๊อกนมไปเลี้ยงลูก ทำให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรงและมีพัฒนาการที่ดี และ เจสซี่ มัม ไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ แต่ก็ยังมีการรับตัวแทนจำหน่าย เพื่อสร้างอาชีพให้กับทุกคนในประเทศไทย”

สิ่งที่ Jessie Mum แตกต่างจากแบรนด์อื่น?

Jessie Mum มีระบบตัวแทนจำหน่ายแตกต่างจากแบรนด์อื่น คือเป็นแบบ Single Level Marketing หมายความว่า ตัวแทนทุกคนสมัครกับบริษัทโดยตรง ไม่มีแม่ทีม มีแต่ที่ปรึกษาการขายสอนงาน ไม่มีการขายสต๊อกตัวเองให้คนอื่น ทำให้บริษัทจะรู้จักตัวแทนทุกคน

“คุณเอิร์น” ได้เล่าว่า กลยุทธ์ในฝั่งตัวแทนของ Jessie Mum มีคีย์เวิร์ดเดียวเลย คือ “ลอกก็สำเร็จได้” ลอกความสำเร็จแบบคนรุ่นใหม่ ผมได้ทำการดีไซน์ระบบตัวแทน เจสซี่ มัม ให้เหมือนคนที่เพิ่งมาขายออนไลน์ครั้งแรก ไม่มีความรู้ด้านการตลาด หรือการขายใดๆ เลย พูดง่ายๆ มาจากศูนย์ แต่ผมขอแค่ความสามารถเดียว “ลอกเป็น” ในระบบผมมีวิธีการเรียนการสอนที่เป็นวิธีง่ายๆ ง่ายที่สุด แค่ใช้คอมพิวเตอร์พื้นฐานเป็น ก็สามารถที่จะขาย Jessie Mum ได้ทันที

       “หลายๆ แบรนด์ก็มักใช้ระบบมัลติเวเวลกัน ว่าง่ายๆ ตัวแทนสามารถรับตัวแทนต่อได้ แต่ของ Jessie Mum มันเป็นแบบซิงเกิ้ลเลเวล ที่เป็นระบบแฟรนไชส์ ก็คือมีตัวแทนมาต่อจากบริษัท แล้วก็รับสินค้าไป เพื่อขายสู่คุณแม่ที่เป็นผู้ใช้จริงๆ ทางแบรนด์ไม่อนุญาตให้ไปหาตัวแทนต่อ”

การเติบโตของแบรนด์

ยุคนี้เป็นยุคที่ธุรกิจ SME และสื่อออนไลน์เข้ามามีบทบาทการใช้ชีวิตแทบทุกด้าน  จึงทำให้สื่อออนไลน์กลายเป็นช่องทางหารายได้เสริม ที่ไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่เสียค่าเช่าที่ ช่วยประหยัดต้นทุน แต่การทำให้ธุรกิจขายของออนไลน์อยู่รอดอย่างมั่นคงนั้น ถือเป็นเรื่องท้าท้ายของเจ้าของธุรกิจหลายคน

ปัจจุบัน Jessie Mum ดำเนินธุรกิจมาแล้ว 6 ปี  เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในบรรดากลุ่มอาหารเสริมเพิ่มน้ำนม การันตีโดยยอดคำค้นหาด้วยชื่อแบรนด์มากที่สุดในบรรดาอาหารเสริมกลุ่มเดียวกัน นั่นยิ่งทำให้โอกาสในการขายมีมากขึ้น โดยปีๆ นึง ธุรกิจ SME ส่วนใหญ่จะเติบโตประมาณ 20 – 30%  แต่สำหรับ เจสซี่ มัม สามารถเติบโตได้ถึง 100% และต่อเนื่องกันเป็นเวลา 4 – 5 ปีที่ผ่านมา

      “ช่วงที่ผมทำธุรกิจปีแรกๆ ยอดขายยังไม่ค่อยเยอะ 10 กว่าล้านบาท มาปีที่สองก็ 20 กว่าล้าน  ปีที่สามก็ 40 ล้าน ปีที่สี่ยอดพุ่งไปถึง 100 กว่าล้านเลย จนปีที่ 5 ทะลุเป้าเติบโตไปถึง 300 ล้านบาทครับ และเป้าหมายในปีนี้ ผมคาดว่าจะพยายามให้ขึ้นไปแตะที่ 400 ล้านบาทให้ได้”

ปัจจัยที่ทำให้ Jessie Mum เติบโตเร็ว

สมุนไพรเพิ่มน้ำนมแม่ Jessie Mum สามารถเข้าไปเปลี่ยน Mindset หลายๆ อย่างให้กับคุณแม่ยุคใหม่ จากในอดีตที่คุณแม่ส่วนใหญ่เลี้ยงลูกด้วยนม จะหลีกเลี่ยงการรับประทานยา หรืออาหารเสริมที่เป็นเม็ด ถ้าจำเป็นจริงๆ จะรับประทานยาชนิดน้ำ หรือสมุนไพรที่มาจากธรรมชาติเป็นทางเลือกรักษาอาการต่างๆ  แต่ผลิตภัณฑ์ เจสซี่ มัม เป็นชนิดแคปซูล กินง่าย สะดวกและไม่มีผลข้างเคียง นี่เป็นส่วนหนึ่งของการให้ความรู้ใหม่ให้กับผู้บริโภค ขณะเดียวกันได้สร้างการเติบโตให้กับแบรนด์ด้วย

“คุณเอิร์น” ได้พูดต่อว่า Jessie Mum ได้ทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนสื่อทางการตลาดต่างๆ เพื่อทำให้ลูกค้าได้รู้จักแบรนด์ และให้ตัวแทนจำหน่ายขายได้ง่ายขึ้น ซึ่งกลยุทธ์ของฝั่งตัวแทน คือ “ลอกก็สำเร็จได้” ลอกความสำเร็จแบบคนรุ่นใหม่ และกุญแจแห่งความสำเร็จ ก็คือ “เราต้องเข้าใจลูกค้าให้มากๆ” ที่สำคัญ เจสซี่ มัม เป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ สินค้าต้องมีความต้องการของตลาด  และสินค้าต้องมีการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง

“เราจำเป็นต้องเข้าใจลูกค้ามากๆ เจสซี่ มัม จึงได้ทำวิจัยเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะ อยากรู้ว่า เขาซื้อ เจสซี่ มัม เพราะอะไร ตรงไหนเป็นข้อดีข้อด้อยของเรา ทำไมเขาถึงซื้อซ้ำ เพื่อที่เราจะได้กลับมาพัฒนา ในแง่ของการตลาดหรือพัฒนาสินค้าให้ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด ให้เห็นผลดีที่สุด และเห็นผลเร็วมากที่สุด สิ่งที่เขาขาดคืออะไร การเห็นผลเป็นยังไง เรามีการเก็บสถิติตลอดทุกวัน วันนึงเราโทรเป็นร้อยๆ สาย  เพื่อที่จะคุยกับลูกค้าศึกษาลูกค้า ว่าจริงๆ แล้วการเพิ่มน้ำนมมันต้องทำยังไง ตัวสินค้ามันช่วยคุณแม่ได้แค่ไหน”

ล้วงลึก! ตลาดแม่และเด็ก

Jessie Mum เน้นการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย โดยบริษัทให้ความรู้ทุกด้านในการขายของออนไลน์ มีทีมที่ปรึกษาด้านการตลาด วางกลยุทธ์ มีการจัดแคมเปญโปรโมชั่น ทำให้ตัวแทนขายสินค้าได้ง่ายขึ้น และมีระบบหลังบ้านทั้ง แชทบอท และเทเลเซลส์ ที่ช่วยตอบปัญหาของลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยสนับสนุนการขายให้กับตัวแทนจำหน่าย จนสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตและประสบความสำเร็จได้

“คุณเอิร์น” ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า บริษัทได้ศึกษาอย่างลงลึกในตลาดแม่และเด็ก โดยเฉพาะเรื่องน้ำนมแม่ จากพฤติกรรมของคุณแม่ เช่น การหาวิธีเพิ่มน้ำนม ทำสต๊อกน้ำนม การปฎิบัติตัวหลังคลอด  ซึ่งผลิตภัณฑ์ Jessie Mum จึงเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้  และการมองเห็นโอกาสในตลาดเฉพาะกลุ่ม (นิช มาร์เก็ต) ที่มีศักยภาพสูงมาก จึงได้ใช้กลยุทธ์การสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ สอดรับกับพฤติกรรมของกลุ่มคุณแม่ที่ส่วนใหญ่จะอยู่บ้านเลี้ยงลูก และใช้สื่อออนไลน์เพื่อหาข้อมูลในการเลี้ยงลูก

    “ผมทำงานตลอดเวลา 7 วันต่อสัปดาห์ ทำงานทุกวัน ทุกวินาทีคืองาน แต่เราสนุกกับมันไง คืองานสำหรับผมมันไม่ใช่งาน มันคือส่วนหนึ่งของชีวิต ที่ทำให้ผมมีความสุข ชีวิตเรามีคุณค่า เราได้ช่วยเหลือคุณแม่ ได้ทำให้เรามีน้ำนม ให้เขาได้เอานมไปเลี้ยงลูก ทำให้เกิดสิ่งดีๆ ในครอบครัวของลูกค้า นั่นคือความสุขของผม ผมถึงทุ่มเทกับการสร้าง Jessie Mum ให้ตอบโจทย์มากที่สุด เราเข้าไปเรียนรู้ เพื่อนำสิ่งที่คุณแม่มีปัญหามาพัฒนาโปรดักส์ของเรา”

กฎ 10,000 ชั่วโมง

การพัฒนาชาติเริ่มมาจากการพัฒนาสถาบันครอบครัว Jessie Mum เชื่อว่าคุณแม่ที่สุขภาพดีและมีความพร้อมจะสามารถดูแลลูกให้เติบโตได้อย่างมีคุณภาพ  นี่คือสิ่งที่แบรนด์มุ่งเน้นให้คุณแม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือแนวคิดและวิสัยทัศน์ของ “คุณเอิร์น” ซีอีโอแห่ง เจสซี่ มัม ในฐานะผู้ก่อตั้งแบรนด์แล้ว ยังเป็นวิทยากรสอน คอร์สการตลาด Online และเป็น Business Consult ให้กับอีกหลายธุรกิจ

“การที่เราจะประสบความสำเร็จอะไรสักด้านนึง ถ้าเราทำทุกอย่างเหมือนกับทุกๆ คน เราจะคือค่าเฉลี่ย เราจะไม่ได้เหนือกว่าค่าเฉลี่ย เพราะฉะนั้นเราก็จะเหมือนคนอื่นๆ เหมือนตัวผมที่อยากจะสำเร็จ เวลาทำอะไร ผมทุ่มเทเต็มที่ ถ้าผมตั้งเป้า ผมก็จะไปให้ถึงเป้านั้น เราต้องทุ่มเทกับมัน เราต้องเอาตัวเองเข้าไปอยู่กับปลายทางที่เราต้องการ คิดถึงมันตลอดเวลา ทำกับมันตลอดเวลา”

“ผมเชื่อเรื่องของกฎ 10,000 ชั่วโมง ถ้าเราอยากจะประสบความสำเร็จหรือเชี่ยวชาญเรื่องไหนสักอย่าง เราต้องอยู่กับมันอย่างน้อย 10,000 ชั่วโมง เพื่อที่จะฝึกฝนและหมกมุ่นอยู่กับมัน แล้วให้เก่งขึ้นไป ถ้าสมมุติว่ากฎ 10,000 ชั่วโมงเนี่ย ก็คือเราทำงานวันละ 10 ชั่วโมง เราจะใช้เวลา 3 ปีครึ่ง กว่าที่เราจะเชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆ  แต่เราอยากจะประสบความสำเร็จเร็วขึ้น เราก็แคใช้เวลามากขึ้นในแต่ละวัน หลายๆ คนที่มีเป้าหมาย แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ แสดงว่าเขาขาดความต่อเนื่อง และความทุ่มเท”

“ถ้าวันนี้คนที่ทำงานกับผม ยังได้รับอีเมลล์หลังเวลางานแล้ว มีการตอบกลับอีเมลล์ หรือตอบ Line หลังเวลางาน นั่นแสดงว่า พนักงานคนั้นคือคนสำคัญขององค์กร เพราะเขาคือคนที่มีส่วนในการตัดสินใจ และขับเคลื่อนองค์กร งานมันจะกลายเป็นก้อนเดียวกับชีวิตเรา” 

คุณเอิร์น พูดทิ้งท้าย

jessie mum หนึ่งเดียวที่แคร์ดูแลจนคุณแม่ทําสต๊อกได้