ลาออกจากวิศวกร มาขายออนไลน์คว้าเงินแสนภายใน 2 เดือน

“ผมชอบมากระบบก็มีให้ มีตอบแชทบอทของ AI ให้ มีทีมเทเลเซลล์ช่วยโทร Up-sell ทุกวันนี้ผมไม่ได้ส่งของเองแล้วครับ ค่าระบบก็ไม่ต้องจ่ายเงินอะไร แล้วในแง่ของการบริการลูกค้า ทางแบรนด์ก็ดูแลให้ดีจริงๆ”

 

เริ่มทำธุรกิจออนไลน์แบรนด์ Jessie Mum อาหารเสริมเพิ่มน้ำนมแม่ มาแค่ 2 เดือน แต่กลับมีรายได้เข้ากระเป๋าเกือบ 2 แสนบาทต่อเดือน คุณแมกโอภาส วิทยารุ่งเรืองศร ตัวแทนจำหน่าย เล่าเส้นทางชีวิตให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ได้ทำงานเป็นวิศวกรอยู่ในโรงงาน แต่อยากมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก ถ้าจะทำเสริมก็ต้องไปหลังเลิกงานเท่านั้น นั่นทำให้ต้องสูญเสียเวลาที่จะไม่ได้ไปไหนเลย จึงได้พยายามหาช่องทางอื่นๆ  ว่ามีธุรกิจอะไรที่สามารถสร้างรายได้ในขณะที่ยังทำงานไปด้วยได้ แต่ก็ติดปัญหาตรงที่ต้องทำงานอยู่ในโรงาน แล้วมันไม่สามารถฟิกเวลาได้

 

จนผมได้เริ่มมาขายของออนไลน์ครับ ตอนนั้นเป็นสินค้าจีนล้วนๆ แต่ผมต้องทำหลายอย่าง ทำการตลาดเองตลอดเวลา สร้างเพจ หาสินค้าใหม่  พอผมขายไปสัก 3 เดือน ยอดเริ่มตก ก็ต้องหาสินค้าใหม่ แล้วก็เอามาขายใหม่ พอยอดเริ่มตกก็หาสินค้าใหม่อีกไปเรื่อยๆ แล้วก็ผมรู้สึกเหนื่อยเพราะทำเองทุกอย่าง ทั้งตอบแชทเอง ทั้งแพ็คของ ส่งสินค้าเอง ยิง Ads เอง ทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวหมดเลย ถึงแม้ผมจะมีรายได้ที่ดีถึง 8 – 9 หมื่นบาท แต่มันก็เหนื่อยมากจริงๆ ครับที่ต้องมานั่งดูเองทั้งหมด


นมีวันหนึ่งที่คุณธีร์ (ธีรชัย เรืองชัยนิคม ที่ปรึกษาการตลาดตัวแทนจำหน่าย Jessie Mum) ได้โทรมาหาผม ผมก็ได้ปรึกษา จนได้รู้จากคุณธีร์ว่า ทางแบรนด์มีรับสมัครตัวแทนจำหน่ายพอดี ตอนได้ยินครั้งแรกว่า เป็นอาหารเสริมเพิ่มน้ำนมแม่ ก็รู้สึกอึ้งๆ ว่าเราจะขายได้เหรอ เราเป็นผู้ชายนะ พอได้ลองฟังคุณธีร์อธิบายและเราได้ศึกษาข้อมูลของแบรนด์ ทำให้รู้สึกว่าน่าสนใจ เพราะตลาดค่อนข้างมีการแข่งขันกันต่ำ แต่ก็ติดปัญหาอยู่ว่า เราจะขายได้ไหม แต่พอนึกถึงคุณธีร์ก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน เขาก็ยังขายได้ดีมียอดขายต่อเดือนหลายล้านบาท

จุดเปลี่ยนที่เลือกมาเป็นตัวแทน

สำหรับใครที่อยากเริ่มต้น แต่ขายไม่เป็น Jessie Mum สอนให้หมด และแบรนด์ซัพพอร์ตให้ทุกอย่าง มีสื่อการขายเตรียมไว้ ทั้งรูปภาพและคลิปวิดีโอ พร้อมทั้งแพทเทิร์นในการขาย ที่ตัวแทนสามารถนำไปใช้สำหรับขายได้เลย ยังมีคนที่มีประสบการณ์จริงมาเทรนส่วนตัวแบบตัวต่อตัว คุณแมก เล่าให้ฟังต่อว่า พอผมได้มาขายและได้รับในสิ่งที่แบรนด์เตรียมมาให้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบก็มีให้ มีตอบแชทบอทของ AI เราไม่ต้องตอบแชทเอง บางทีเราไปนั่งกินข้าว กลับมาเปิดแชทดู ลูกค้าก็ซื้อแล้วเพราะคุยกับบอทให้ ขายได้แบบไม่ต้องเหนื่อยมาก เป็นอะไรที่แตกต่างจากขายสินค้าจีน ยังช่วยให้เราประหยัดเวลาตรงนี้เยอะ ส่วนเรื่อง Ad ก็มีการใช้  AI Automation ทุกอย่าง  มันทำให้ผมไม่ต้องมาดู Ads เองเลย และก็มีทีมงานของบริษัทที่เป็นเทเลเซลล์ช่วยโทรขายเพิ่มยอดให้อีก เราก็ไม่ต้องส่งของเองด้วย เพราะทางบริษัทส่งให้ แค่เรามีออเดอร์ไปคีย์ในระบบก็จะทำการส่งต่อให้เอง แล้วค่าระบบผมก็ไม่ต้องเสียด้วยครับ 

 

แล้วเมื่อมีคนทำได้ ผมก็ต้องทำได้ และการที่แบรนด์ดูแลผมเป็นอย่างดี ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจเป็นตัวแทน Jessie Mum  ถึงแม้ในช่วงเดือนแรกๆ จะขายได้แค่หลักหมื่นต้นๆ เพราะว่าเริ่มต้นยังขายไม่เก่ง คือตอนนั้นยังขายสินค้าที่เป็นควบคู่กับของจีนอยู่ คือเราตั้งใจยิง Ads แล้วได้ตังค์เลย พอมาขาย Jessie Mum ก็ยังติดความคิดเดิมๆ อยู่ พอไม่ได้ใช้ตรงนี้แล้ว รู้สึกยอดไม่ค่อยโตเท่าไหร่ ก็เลยยังไม่ได้ทุ่มเททำอย่างเต็มที่ แต่พอสินค้าจีนเริ่มมีปัญหา จนรายได้ก็ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ นั่นทำให้ผมตั้งเรียนรู้วิธีการให้มากขึ้น

 

หลังจากที่ผมขาย Jessie Mum มาเรื่อยๆ จากนั้นก็มียอดค่อยๆ เขยิบตามเงินเดือนขึ้นมา ทำให้ผมคิดว่าขนาดใช้เวลาว่างหลังเลิกงานแค่นี้ยังได้ยอดขนาดนี้ แล้วถ้าเราออกมาลุยออนไลน์เต็มตัวล่ะ  คิดแล้วผมก็เลยตัดสินใจออกจากงานประจำทันทีครับ เพื่อมาเริ่มสิ่งใหม่ที่ดีกว่า ถึงแม้ตอนขายช่วงแรกๆ รายได้ยังไม่เยอะ แต่ตัวตัดสินให้ผมมั่นใจคือวันที่สินค้าจีนตัวเดิมที่ผมขายควบคู่มามีปัญหาครับ รายได้จาก 7 – 8 หมื่นบาท ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ จนมาถึงแค่หมื่นกว่าบาท เมื่อเทียบกับที่ขาย Jessie Mum รายได้ยังอยู่ที่ 2 หมื่น 3 หมื่น ประคองอยู่เรื่อยๆ ครับ ขนาดทำบ้างไม่ทำบ้าง แต่มันก็เติบโตช้าๆ แต่มั่นคงครับ ทำให้เป็นจุดเปลี่ยนที่ผมมาทุ่มเทให้กับ Jessie Mum เป็นหลักแทน และรายได้เดือนแรกขึ้นมาเกือบ 6 หมื่นบาท มาเดือนที่สอง โฟกัสเต็มที่ขึ้นมา 160,000 บาท ในเวลา 2 เดือนเท่านั้น เท่ากับว่ารายได้จากขายสินค้าจีนเหลือ 10% ส่วนรายได้ขาย Jessie Mum 90%”

ตัวแทนขึ้นตรงกับบริษัท

Jessie Mum รู้ดีว่า สิ่งสำคัญของการมีตัวแทนจำหน่ายไม่ได้อยู่ที่ปริมาณ ว่ามีจำนวนมากแล้วจะประสบความสำเร็จเสมอไป แต่อยู่ที่การวางระบบการสร้างตัวแทนที่มีคุณภาพ ความเอาใจใส่ และการดูแลตัวแทนจำหน่ายอย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะก้าวเดินเติบโตไปพร้อม ๆ กับแบรนด์มากกว่า คุณแมก เล่าต่อว่า “ทางแบรนด์มีความเข้าใจ ได้มีการจัดเตรียมให้เรียบร้อย เพื่อให้ตัวแทน Jessie Mum ให้ได้ขายดีที่สุด พอเราขายได้ ทำยอดได้แล้ว ทางแบรนด์ก็จะเติบโตไปด้วยเช่นกัน แล้วไม่ต้องกลัวว่าตัวแทนจะล้นตลาด แบรนด์มีวิธีจัดการ เพราะแบรนด์ไม่ได้เป็นระบบตัวแทนต่อตัวแทน คือใครอยากเป็นตัวแทนก็ติดต่อไปที่บริษัทเลย ตัวแทนขึ้นตรงกับบริษัท แล้วตัวแทนก็รับรายได้จากการขายเต็มๆ แบบไม่มีใครมาหักหัวคิวด้วย ซึ่งทางแบรนด์ก็มีวิธีพิจารณาคัดเลือกเอง เพื่อเป็นการควบคุมปริมาณตัวแทนไม่ให้เยอะจนเกินไป เอาแค่บริษัทสามารถดูแลตัวแทนได้อย่างทั่วถึง


สินค้าดี มีการซื้อซ้ำ

อย่างไรก็ตาม คนที่ขายออนไลน์มาแล้ว แต่ยังไม่ปัง อยากมียอดขายสัก 6 หลักขึ้นไป และกำลังทำงานประจำอยู่อยากจะออกมาขายออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จเหมือนกับ คุณแมก-โอภาส วิทยารุ่งเรืองศร ตัวแทนจำหน่าย Jessie Mum ที่ออกมาทำออนไลน์แบบเต็มตัว เพียงแค่ 2 เดือน ก็มีรายได้แตะเกือบ 2 แสนบาทต่อเดือนนั้น “ผมคิดว่าปัญหาหลายอย่างที่คนไม่ประสบความสำเร็จ คือโฟกัสขายหลายอย่างมากเกินไป ถ้าเลือกสินค้าที่มีความพร้อมจริงๆ มีระบบซัพพอร์ตที่ดี และสินค้าจำเป็นที่ต้องการในตลาด มีการซื้อซ้ำต่อเนื่อง ผมว่าโอกาสจะเติบโตก็จะง่ายกว่าสินค้าที่ไม่มีการซื้อซ้ำเลยนะครับ” คุณแมก กล่าวทิ้งท้าย

Jessie Mum หนึ่งเดียวที่แคร์ดูแลจนคุณแม่ทำสต๊อกได้


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *